16. เขาพิพากษาคดีของคนจนและคนขัดสนเขาก็อยู่เย็นเป็นสุขทำอย่างนี้เป็นการรู้จักเราหรือพระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
17. แต่เจ้ามีตาและใจไว้เพียงมุ่งกำไรอสัตย์ของเจ้าเพื่อหลั่งโลหิตที่ไร้ความผิดให้ถึงตายและเพื่อปฏิบัติการบีบบังคับและความทารุณ”
18. เพราะฉะนั้น พระเจ้าจึงตรัสดังนี้เกี่ยวกับ เยโฮยาคิม ราชบุตรของโยสิยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ ว่า“เขาทั้งหลายจะไม่โอดครวญอาลัย เขาว่า‘อนิจจา พี่ชายเอ๋ย’ หรือ ‘อนิจจา พี่สาวเอ๋ย’เขาทั้งหลายจะไม่โอดครวญอาลัย เขาว่า‘อนิจจา พระองค์ท่าน’ หรือ ‘อนิจจา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’
19. ท่านจะถูกฝังไว้อย่างฝังลาคือถูกลากไปโยนทิ้งไว้ข้างนอกประตูเมืองเยรูซาเล็ม”
20. “จงขึ้นไปที่เลบานอน และร้องว่าและจงเปล่งเสียงของเจ้าในเมืองบาชานจงร้องจากอาบาริมเพราะว่าคนรักทั้งสิ้นของเจ้าถูกทำลายเสียแล้ว
21. เราได้พูดกับเจ้าเมื่อเจ้าอยู่เย็นเป็นสุขแต่เจ้ากล่าวว่า ‘เราจะไม่ฟัง’นี่เป็นวิธีการของเจ้าตั้งแต่ยังหนุ่มๆคือเจ้าไม่เชื่อฟังเสียงของเรา
22. ลมจะควบคุมดูแลผู้เลี้ยงแกะทั้งสิ้นของเจ้าและบรรดาคนรักของเจ้าจะไปเป็นเชลยแล้วเจ้าจะอับอายขายหน้าเนื่องด้วยความอธรรมทั้งสิ้นของเจ้า
23. ชาวเมืองเลบานอนเอ๋ยที่สร้างรังอยู่ท่ามกลางไม้สนสีดาร์เจ้าจะคร่ำครวญสักเท่าใดเมื่อความเจ็บปวดมาเหนือเจ้าอย่างความเจ็บปวดของหญิงที่คลอดบุตร”
24. “พระเจ้าตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่ตราบใด แม้ว่าโคนิยาห์ราชบุตร ของเยโฮยาคิม กษัตริย์แห่งยูดาห์เป็นแหวนตราอยู่ที่มือขวาของเรา ถึงกระนั้นเราจะถอดออกเสีย
25. และมอบเจ้าไว้ในมือของคน เหล่านั้นที่แสวงหาชีวิตของเจ้า ในมือของคนเหล่านั้นซึ่งพวกเจ้ากลัว คือว่าในมือของเนบูคัดเนสซาร์พระราชา แห่งบาบิโลนและในมือของคนเคลเดีย
26. เราจะเหวี่ยงเจ้าและมารดาผู้คลอดเจ้า ไปยังอีกประเทศหนึ่ง ที่ซึ่งเจ้ามิได้เกิดที่นั่นและเจ้าจะตายที่นั่น
27. แต่แผ่นดินซึ่งเขาอาลัยอยากจะกลับนั้น เขาจะไม่ได้กลับไปสู่ได้”
28. โคนิยาห์ชายผู้นี้เป็นหม้อที่ถูกดูหมิ่นและแตกหรือเป็นภาชนะที่ไม่มีใครชอบหรือทำไมตัวเขาและลูกของเขาจึงถูกเหวี่ยงและถูกโยนเข้าในแผ่นดินซึ่งเขาทั้งหลายไม่รู้จัก
29. โอ้แผ่นดิน แผ่นดิน แผ่นดินเอ๋ยจงฟังพระวจนะของพระเจ้า
30. พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า“จงเขียนลงว่าชายคนนี้ไม่มีบุตรเป็นชายซึ่งไม่มีความสำเร็จในชั่วชีวิตของเขาเพราะไม่มีลูกของเขาสักคนหนึ่งที่จะสำเร็จในการประทับบนพระที่นั่งของดาวิดและปกครองในยูดาห์อีก”