13. แล้วเจ้าจงพูดกับเขาทั้งหลายว่า ‘พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะให้ชาวแผ่นดินนี้ทั้งสิ้นเต็มไปด้วยความมึนเมา คือกษัตริย์ทั้งหลายของผู้ประทับบนบัลลังก์ของดาวิด พวกปุโรหิต พวกผู้เผยพระวจนะ และชาวกรุงเยรูซาเล็มทั้งสิ้น
14. และพระเจ้าตรัสว่า เราจะเหวี่ยงเขาทั้งหลายให้ชนกันและกัน พวกพ่อก็ชนพวกลูก เราจะไม่สงสารหรือไม่ไว้ชีวิต หรือมีความเมตตาที่เราจะไม่ทำลายเขา’ ”
15. จงฟังและเงี่ยหูฟัง อย่ายโสไปเลยเพราะพระเจ้าทรงลั่นพระวาจาแล้ว
16. จงถวายพระสิริแด่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเจ้าทั้งหลายก่อนที่พระองค์จะทรงนำความมืดมาก่อนที่เท้าของเจ้าจะสะดุดบนภูเขาที่มีแสงโพล้เพล้และขณะเมื่อเจ้าทั้งหลายมองหาความสว่างพระองค์ทรงกลับให้เป็นความมืดคลุ้มและทรงกระทำให้เป็นความมืดทึบ
17. แต่ถ้าเจ้าทั้งหลายไม่ฟังจิตใจของข้าพเจ้าก็จะร้องไห้ลับๆ เพราะความทะนงใจของเจ้าตาของข้าพเจ้าจะร้องไห้มากนักและมีน้ำตาอาบหน้าเพราะฝูงแกะของข้าพเจ้าถูกต้อนเอาไปเป็นเชลย
18. จงกล่าวแก่พระราชาและพระราชินีว่า“ขอทรงประทับ ณ ที่ต่ำเพราะว่ามงกุฎสวยงามของพระองค์ได้หล่นมาจากพระเศียรของพระองค์แล้ว”
19. หัวเมืองแห่งเนเกบก็ถูกปิดซึ่งไม่มีใครจะเปิดได้ยูดาห์ทั้งสิ้นก็ถูกกวาดไปเป็นเชลยแล้วถูกกวาดไปเป็นเชลยหมดทีเดียว
20. “จงเงยหน้าของเจ้าขึ้นดูเขาเหล่านั้นที่มาจากทิศเหนือฝูงแกะที่ได้มอบไว้ให้แก่เจ้านั้นอยู่ที่ไหนคือฝูงแกะที่งดงามของเจ้านั่นน่ะ
21. เจ้าจะว่าอย่างไรเมื่อเขาตั้งคนเหล่านั้นผู้ซึ่งตัวเจ้าเองได้สอนให้เป็นมิตรกับเจ้าไว้เป็นประมุขของเจ้าความเจ็บปวดจะไม่เข้ามาครอบงำเจ้าอย่างความเจ็บปวดของผู้หญิงที่กำลังคลอดบุตรหรือ
22. และถ้าเจ้าว่าในใจของเจ้าว่า‘ทำไมสิ่งเหล่านี้จึงเกิดกับข้า’ก็เพราะบาปชั่วที่มากมายใหญ่โตของเจ้าเสื้อของเจ้าจึงต้องถูกถลกขึ้นและเจ้าจึงถูกข่มขืน
23. คนเอธิโอเปียเปลี่ยนวรรณของตนเองได้หรือหรือเสือดาวเปลี่ยนลายของมันถ้าได้แล้วเจ้าทั้งหลายผู้ที่เคยต่อการกระทำความชั่วจะมากระทำความดีก็ได้