10. แต่พระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และเป็นพระมหากษัตริย์เนืองนิตย์พอทรงพระพิโรธแผ่นดินก็หวั่นไหวและบรรดาประชาชาติจะทนต่อความกริ้วของพระองค์ไม่ได้
11. เจ้าจงพูดกับเขาทั้งปวงดังนี้ว่า “บรรดาพระเจ้าผู้ที่มิได้ทรงสร้างสวรรค์และโลกจะพินาศไปจากโลก และจากภายใต้สวรรค์”10
12. ผู้ทรงสร้างโลกด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ผู้ทรงสถาปนาพิภพไว้ด้วยสติปัญญาของพระองค์และทรงคลี่ท้องฟ้าออกด้วยความเข้าใจของพระองค์
13. เมื่อพระองค์ทรงเปล่งพระสุรเสียง ก็มีเสียงน้ำคะนองในท้องฟ้าและทรงกระทำให้หมอกลอยขึ้นจากปลายพิภพทรงกระทำฟ้าแลบเพื่อฝนและทรงนำลมมาจากพระคลังของพระองค์
14. มนุษย์ทุกคนบัดซบและไม่มีความรู้ช่างทองทุกคนจะได้อายเพราะรูปเคารพของตนเพราะรูปเคารพหล่อของเขาเป็นของเท็จและไม่มีลมหายใจในรูปเคารพนั้น
15. มันเป็นของไร้ค่า และเป็นผลงานที่น่าเยาะเย้ยมันจะต้องพินาศเมื่อถึงเวลาการลงโทษ
16. พระองค์ผู้ทรงเป็นส่วนของยาโคบไม่เหมือนสิ่งเหล่านี้เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ที่ก่อร่างทุกสิ่งขึ้นและอิสราเอลเป็นเผ่าที่เป็นมรดกของพระองค์พระเยโฮวาห์จอมโยธาเป็นพระนามของพระองค์
17. เจ้าทั้งหลายที่อาศัยอยู่ภายใต้การถูกล้อมเอ๋ยจงเก็บข้าวของจากพื้นดิน
18. เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า“ดูเถิด เราจะเหวี่ยงชาวแผ่นดินออกไปเสียณ เวลานี้และเราจะนำความทุกข์ใจมาถึงเขาเพื่อให้เขารู้สึก”
19. วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะความเจ็บปวดของข้าพเจ้า11บาดแผลของข้าพเจ้าก็ร้ายหนักแต่ข้าพเจ้าเคยว่า “แท้จริงนี่เป็นความทุกข์ใจและข้าพเจ้าจะต้องทนเอา”
20. เต็นท์ของข้าพเจ้าก็ถูกทำลายและเชือกของข้าพเจ้าก็ขาดสิ้นลูกๆของข้าพเจ้าจากข้าพเจ้าไปหมดและไม่มีเขาอีกแล้วไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดที่จะกางเต็นท์ให้ข้าพเจ้าอีกและแขวนม่านของข้าพเจ้าให้