3. เขาทั้งหลายพูดกับข้าพเจ้าว่า “ผู้ที่รอดตายซึ่งอยู่ในมณฑล คือผู้ซึ่งรอดพ้นจากการถูกกวาดไปเป็นเชลย มีความลำบากและความอับอายมาก กำแพงเมืองเยรูซาเล็มก็พังลง และประตูเมืองก็ถูกไฟทำลายเสีย”
4. อยู่มาเมื่อข้าพเจ้าได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ข้าพเจ้าก็นั่งลงร้องไห้และโศกเศร้าอยู่หลายวัน ข้าพเจ้าอดอาหารและอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่ง ฟ้าสวรรค์เรื่อยมา
5. ข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่ง และน่าเกรงกลัว ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและดำรง ความรักมั่นคงกับบรรดาผู้ที่รักพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์
6. ขอพระองค์ทรงเงี่ยพระกรรณฟัง และขอทรงลืมพระเนตรของพระองค์ดูอยู่ เพื่อจะทรงฟังคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์ทูลอธิษฐานต่อพระองค์ ณ บัดนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อประชาชนอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ สารภาพบาปของประชาชนอิสราเอล ซึ่งข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์ ด้วยว่าข้าพระองค์กับตระกูลของข้าพระองค์ทำบาปแล้ว
7. ข้าพระองค์ทั้งหลายประพฤติเลวทรามมาก และมิได้รักษาพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และกฎหมายซึ่งพระองค์ได้ทรงบัญชา ไว้กับโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์
8. ขอพระองค์ทรงระลึกถึงพระวจนะ ซึ่งพระองค์ได้บัญชาไว้กับโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ว่า ‘ถ้าเจ้าทั้งหลายไม่ซื่อตรงต่อเรา เราจะกระจายเจ้าทั้งหลายไปในหมู่ชนชาติ ทั้งหลาย
9. ถ้าเจ้ากลับมาหาเรา และรักษาบัญญัติของเรา และประพฤติตาม ถึงแม้ว่าพวกเจ้ากระจัดกระจายไปอยู่ใต้ฟ้าที่ไกลที่สุด เราจะรวบรวมเจ้ามาจากที่นั่น และนำเจ้ามายังสถานที่ซึ่งเราได้เลือกไว้ เพื่อกระทำให้นามของเรา ดำรงอยู่ที่นั่น’
10. เขาเหล่านี้ เป็นผู้รับใช้และเป็นประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งพระองค์ได้ทรงไถ่ไว้ ด้วยฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ และด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์
11. ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ และต่อคำอธิษฐานของบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ปีติยินดีที่ยำเกรงพระนามของพระองค์ ขอประทานความสำเร็จแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ในวันนี้ และขอทรงโปรดให้เป็นที่ชอบในสายตาของชายคนนี้”ขณะนั้น ข้าพเจ้าเป็นพนักงานเชิญถ้วยเสวยของพระราชา