5. และเหนือหีบนั้น มีรูปเครูบแห่งพระสิริ คลุมพระที่นั่งพระกรุณานั้น สิ่งเหล่านี้ เราจะพรรณนาให้ละเอียดในที่นี้ไม่ได้
6. เมื่อจัดตั้งสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างนั้นแล้ว พวกปุโรหิตก็เข้าไปในเต็นท์ห้องชั้นนอกทุกครั้งที่ปฏิบัติกิจวัตร
7. แต่ในห้องที่สองนั้นมีมหาปุโรหิตผู้เดียวเท่านั้นที่เข้าไปได้ปีละครั้ง และต้องนำเลือดเข้าไปถวายเพื่อตัวเอง และเพื่อความผิดโดยไม่เจตนาของประชาชนด้วย
8. เพราะการปฏิบัติอย่างนี้เอง พระวิญญาณบริสุทธิ์จึงทรงสำแดงว่า ทางซึ่งจะนำเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์นั้นจะยังไม่เปิด ในเมื่อเต็นท์ห้องชั้นนอกยังตั้งอยู่
9. (เต็นท์ห้องชั้นนอกเป็นเครื่องหมายแห่งยุคปัจจุบัน) การถวายของกำนัลและเครื่องบูชา ซึ่งจะกระทำกันตามแบบนี้ ไม่ชำระใจสำนึกผิดของผู้ถวายนั้น
10. เพราะเป็นเรื่องของกินของดื่ม และพิธีชำระล้างต่างๆเท่านั้น เป็นพิธีสำหรับการปฏิบัติทางกายที่ได้บัญญัติไว้ จนกว่าจะถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงใหม่
11. แต่เมื่อพระคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมหาปุโรหิตแห่งสิ่งประเสริฐ ซึ่งมาถึงแล้ว6 พระองค์ก็ได้เสด็จเข้าไปสู่เต็นท์อันใหญ่ยิ่งกว่าแต่ก่อน (ที่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือ คือไม่ใช่เต็นท์แห่งโลกนี้)
12. พระองค์เสด็จเข้าไปในวิสุทธิสถานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และพระองค์ไม่ได้ทรงนำเลือดแพะและเลือดลูกวัวเข้าไป แต่ทรงนำพระโลหิตของพระองค์เองเข้าไป และทรงสำเร็จการไถ่บาปชั่วนิรันดร์
13. เพราะว่าถ้าเลือดแพะและเลือดวัวตัวผู้ และเถ้าของลูกโคตัวเมีย ที่ประพรมลงบนคนบาปสามารถชำระมนุษย์ให้บริสุทธิ์ได้