9. แต่ดูก่อนท่านที่รัก แม้เราจะพูดอย่างนั้นเราก็เชื่อแน่ว่า กรณีของท่านนั้นมีสิ่งที่ดีกว่าที่ได้กล่าวมา นั่นก็คือสิ่งที่เกี่ยวกับความรอด
10. เพราะว่าพระเจ้าไม่ทรงอธรรม ที่จะทรงลืมการงานซึ่งท่านได้กระทำ เพราะความรักที่ท่านมีต่อพระนามของพระองค์ คือการรับใช้ธรรมิกชนนั้น ดังที่ท่านยังรับใช้อยู่
11. และเราปรารถนาให้ท่านทั้งหลายแสดงความตั้งใจจริง เช่นเดียวกันทุกท่าน จนกว่าความหวังของท่านจะประสบความสำเร็จ
12. เราไม่อยากให้ท่านเป็นคนเฉื่อยช้า แต่ให้ตามเยี่ยงอย่างแห่งคนเหล่านั้นที่อาศัยความเชื่อและความเพียร จึงได้รับตามพระสัญญาเป็นมรดก
13. เมื่อพระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับอับราฮัมนั้น โดยเหตุที่ไม่มีใครเป็นใหญ่กว่าพระองค์ที่พระองค์จะทรงอ้างได้นั้น พระองค์ก็ได้ทรงอ้างพระองค์เอง
14. คือตรัสว่า เราจะอำนวยพรเจ้าเป็นแน่ และจะให้เผ่าพันธุ์ของเจ้าทวีมากขึ้น
15. เช่นนั้นแหละ เมื่ออับราฮัมได้ทนคอยด้วยความเพียรแล้ว ท่านก็ได้รับพระพรตามพระสัญญานั้น
16. ส่วนมนุษย์นั้นต้องสาบานต่อหน้าผู้ที่เป็นใหญ่กว่าตน แล้วเมื่อเกิดข้อทุ่มเถียงอะไรกันขึ้น ก็ต้องถือคำสาบานนั้นเป็นคำยืนยันขั้นเด็ดขาด
17. ฉะนั้นเมื่อพระเจ้าทรงประสงค์จะแสดงให้บรรดาผู้ที่ได้รับพระสัญญาเป็นมรดกรู้แน่ยิ่งขึ้นว่า พระดำริของพระองค์จะไม่เปลี่ยนแปลง พระองค์จึงได้ทรงยืนยันพระสัญญานั้นด้วยคำสาบาน
18. เพื่อว่าโดยสองประการที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ (พระเจ้าจะไม่ตรัสมุสา) เราผู้ที่ได้หนีไปยึดความหวังซึ่งมีอยู่ตรงหน้า เราจึงจะได้รับการชูใจอย่างมากมาย5