7. ข้าพเจ้าได้เห็นเต็นท์ของคนคูชันอยู่ในสภาพทุกข์ใจและม่านแห่งแผ่นดินมีเดียนหวั่นไหว
8. ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงพระพิโรธต่อแม่น้ำหรือพระองค์ทรงกริ้วต่อแม่น้ำหรือหรือว่าพระองค์ทรงโกรธทะเลเมื่อพระองค์เสด็จทรงม้าเมื่อทรงรถรบแห่งความมีชัย
9. พระองค์ทรงดึงแล่งคันธนูออกเสียแล้วทรงบรรจุลูกธนูไว้ในสายของมันพระองค์ทรงแยกพิภพด้วยแม่น้ำ
10. บรรดาภูเขาเห็นพระองค์ก็บิดเบี้ยวไปกระแสน้ำที่ดุเดือดก็กวาดผ่านไปมหาสมุทรก็ส่งเสียงมันยกมือของมันขึ้นเบื้องสูง
11. ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์นิ่งเฉยอยู่ในที่ของมันเมื่อแสงแห่งลูกธนูของพระองค์พุ่งผ่านไปเมื่อแสงแวบวาบแห่งหอกอันเป็นเงาของพระองค์พุ่งไป
12. พระองค์เสด็จไปเหนือพิภพด้วยความโกรธาพระองค์ทรงเหยียบย่ำประชาชาติด้วยความกริ้ว
13. พระองค์เสด็จออกไปเพื่อช่วยประชากรของพระองค์ให้รอดเพื่อช่วยผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้ให้รอดพระองค์ทรงทำลายบ้านของคนอธรรมให้แหลกเผยให้เห็นรากฐานแม้ถึงพื้นหิน
14. พระองค์ทรงแทงศีรษะนักรบของเขาด้วยหอกของพระองค์ผู้มาอย่างลมบ้าหมู เพื่อจะกระจายข้าพเจ้าเสียเขาจะเปรมปรีดิ์ดังว่าจะกินคนจนเสียเป็นความลับ
15. พระองค์ทรงเหยียบย่ำทะเลด้วยม้าของพระองค์คือน้ำมากหลายซึ่งเดือดพลุ่ง
16. ข้าพเจ้าได้ยิน และท้องของข้าพเจ้าก็สะเทือนพอได้ยินเสียง ปากของข้าพเจ้าก็สั่นกระดูกของข้าพเจ้าก็ผุพังและข้าพเจ้าก็สะเทือนอยู่ในที่ของข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าคอยวันแห่งความลำบากอยู่เงียบๆคือวันที่จะมาถึงประชาชนที่บุกรุกเรา
17. แม้ต้นมะเดื่อไม่มีดอกบานหรือเถาองุ่นไม่มีผลผลมะกอกเทศก็ขาดไปทุ่งนามิได้เกิดอาหารฝูงสัตว์ขาดไปจากคอกและไม่มีฝูงวัวที่ในโรง
18. ถึงกระนั้นข้าพเจ้าจะร่าเริงในพระเจ้าข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า