9. “เขาจะสอนความรู้ให้แก่ใครเขาจะบรรยายข่าวแก่ผู้ใดให้แก่คนเหล่านั้นที่หย่านมหรือหรือให้แก่คนเอามาจากอก
10. เพราะเป็นกฎซ้อนกฎ กฎซ้อนกฎบรรทัดซ้อนบรรทัด บรรทัดซ้อนบรรทัดที่นี่นิด ที่นั่นหน่อย”
11. เปล่า แต่พระองค์จะตรัสกับชนชาตินี้โดยต่างภาษา และด้วยปากของคนต่างด้าว
12. คือแก่บรรดาผู้ที่พระองค์ตรัสว่า“นี่คือการหยุดพักจงให้การหยุดพักแก่คนเหน็ดเหนื่อยและนี่คือการพักผ่อน”ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ฟัง
13. เพราะฉะนั้น พระวจนะของพระเจ้าจึงเป็นอย่างนี้แก่เขาเป็นกฎซ้อนกฎ กฎซ้อนกฎเป็นบรรทัดซ้อนบรรทัด บรรทัดซ้อนบรรทัดที่นี่นิด ที่นั่นหน่อยเพื่อเขาจะไปและถอยหลังและจะแตก และจะติดบ่วงและจะถูกจับไป
14. เพราะฉะนั้น เจ้าทั้งหลายคนมักเยาะเย้ยเอ๋ย จงฟังพระวจนะของพระเจ้าคือเจ้าผู้ปกครองชนชาตินี้ในเยรูซาเล็ม
15. เพราะเจ้าทั้งหลายได้กล่าวแล้วว่า “เราได้กระทำพันธสัญญาไว้กับความตายและเราทำความตกลงไว้กับแดนคนตายเมื่อภัยพิบัติอันท่วมท้นผ่านไปจะไม่มาถึงเราเพราะเราทำให้ความเท็จเป็นที่ลี้ภัยของเราและเราได้กำบังอยู่ในความมุสา”
16. เพราะฉะนั้น พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า“ดูเถิด เราวางศิลาไว้ในศิโยนเพื่อเป็นรากฐานคือศิลาที่ทดสอบแล้วเป็นศิลามุมเอกอย่างประเสริฐ เป็นรากฐานอันมั่นคง‘เขาผู้นั้นที่วางใจจะไม่รีบร้อน’
17. และเราจะกระทำความยุติธรรมให้เป็นเชือกวัดและความชอบธรรมให้เป็นลูกดิ่งและลูกเห็บจะกวาดเอาความเท็จอันเป็นที่ลี้ภัยไปเสียและน้ำจะท่วมท้นที่กำบัง”
18. แล้วพันธสัญญาของเจ้ากับความตายเป็นโมฆะและข้อตกลงของเจ้ากับแดนคนตายจะไม่ดำรงเมื่อภัยพิบัติอันท่วมท้นผ่านไปเจ้าจะถูกเหยียบย่ำลงด้วยโทษนั้น