14. กับทำสร้อยสองสายด้วยทองคำบริสุทธิ์ เป็นสร้อยถักเกลียว แล้วติดไว้ที่กระเปาะนั้น
15. “จงทำทับทรวงสำหรับแต่งเวลาพิพากษา ด้วยฝีมือช่างออกแบบฝีมือเหมือนทำเอโฟด คือทำด้วยทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อดี
16. ให้ทำทับทรวงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พับทบกลางยาวคืบหนึ่ง กว้างคืบหนึ่ง
17. จงฝังแก้วสี่แถวบนทับทรวงนั้น แถวที่หนึ่งฝังทับทิม บุษราคัมน้ำอ่อน และมรกต
18. แถวที่สองฝังพลอยขี้นกการเวก ไพฑูรย์ และเพชร
19. แถวที่สาม ฝังนิลโมรา และเพทายม่วง
20. แถวที่สี่ฝังเพทาย โกเมนและมณีโชติ แก้วทั้งหมดนี้ให้ฝังในลวดลายอันละเอียดที่ทำด้วยทองคำ
21. แก้วเหล่านั้นให้มีชื่อเหล่าบุตรอิสราเอลสิบสองชื่อ จารึกไว้เหมือนแกะตรา จะมีชื่อเผ่าทุกเผ่าตามลำดับสิบสองเผ่า
22. และเจ้าจงทำสร้อยถักเกลียวด้วย ทองคำบริสุทธิ์สำหรับทับทรวง
23. และเจ้าจงทำห่วงทองคำสองห่วง ติดไว้ที่มุมบนทั้งสองของทับทรวง
24. ส่วนสร้อยที่ทำด้วยทองคำนั้น ให้เกี่ยวด้วยห่วงที่มุมทับทรวง
25. และปลายสร้อยอีกสองข้าง ให้ติดกับกระเปาะที่มีลวดลายละเอียดทั้งสอง ให้ติดไว้ข้างหน้าที่แถบยึดเอโฟดทั้งสองข้างบนบ่า
26. จงทำห่วงทองคำสองอัน ติดไว้ที่มุมล่างทั้งสองข้างของทับทรวงข้างในที่ติดเอโฟด
27. จงทำห่วงสองอันด้วยทองคำใส่ไว้ริมเอโฟดเบื้องหน้า ใต้แถบที่ตะเข็บเหนือรัดประคดซึ่งทอด้วยฝีมือประณีต
28. ให้ผูกทับทรวงนั้นติดกับเอโฟดด้วย ใช้ด้ายถักสีฟ้าร้อยผูกที่ห่วง ให้ทับทรวงทับรัดประคด ที่ทำด้วยฝีมือประณีตของเอโฟดเพื่อมิให้ ทับทรวงหลุดไปจากเอโฟด