4. “ข้าแต่พระเจ้า เมื่อพระองค์เสด็จออกจากเสอีร์เมื่อพระองค์เสด็จจากท้องถิ่นเอโดมแผ่นดินก็หวาดหวั่นไหว ท้องฟ้าก็ปล่อยลงมา เออ เมฆก็ปล่อยฝนลงมา
5. ภูเขาก็ไหวสะท้านต่อพระพักตร์พระเจ้าทั้งภูเขาซีนาย โน้มต่อพระพักตร์ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล
6. “ในสมัยชัมการ์บุตรอานาทสมัยยาเอล ทางหลวงก็หยุดชะงักผู้สัญจรไปมาก็หลบไปเดินตามทางซอย
7. ชาวไร่ชาวนาในอิสราเอลก็หยุดยั้งเขาหยุดยั้งจนดิฉันเดโบราห์ขึ้นมาจนดิฉันขึ้นมาเป็นอย่างมารดาอิสราเอล
8. เมื่อเลือกนับถือพระใหม่สงครามก็ประชิดเข้ามาถึงประตูเมืองเห็นมีโล่หรือหอกสักอันหนึ่งในพลอิสราเอลสี่หมื่นคนหรือ
9. จิตใจของข้าพเจ้านิยมชมชอบ ในบรรดาเจ้าเมืองของอิสราเอลผู้อาสาสมัครท่ามกลางประชาชนจงถวายสาธุการแด่พระเจ้า
10. “บรรดาท่านผู้ที่ขี่ลาเผือก จงบอกกล่าวให้ทราบเถิดทั้งท่านผู้ที่นั่งบนพรมอันมีค่าและท่านที่สัญจรไปมา
11. ณ ที่ตักน้ำห่างไกลจากเสียงนักธนูเขากล่าวถึงชัยชนะของพระเจ้าคือชัยชนะของชาวไร่ชาวนาในอิสราเอล“แล้วชนชาติของพระเจ้าก็เดินไปที่ประตูเมือง
12. “เดโบราห์เอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิดตื่นเถิด ตื่นมาร้องเพลงลุกขึ้นเถิด บาราค โอ บุตรอาบีโนอัมเอ๋ยพาพวกเชลยของท่านไป
13. ครั้งนั้นผู้มีศักดิ์ที่เหลืออยู่และประชาชนก็ลงมาพระเจ้าเสด็จลงมาสู้กับผู้มีกำลังเพื่อข้าพเจ้า
14. ผู้ที่มีรากอยู่ในอามาเลขได้ลงมาจากเอฟราอิมเขาเดินตามท่านนะ เบนยามิน ท่ามกลางประชาชนของท่านผู้บังคับบัญชาเดินลงมาจากมาคีร์และผู้ถือไม้ของจอมพลออกมาจากเศบูลุน
15. เจ้านายทั้งหลายของอิสสาคาร์มากับเดโบราห์และอิสสาคาร์กับบาราคด้วยเขาเร่งติดตามท่านไปในหุบเขามีความตั้งใจอย่างยิ่งในบรรดาตระกูลรูเบน
16. ไฉนท่านจึงรั้งรออยู่ที่คอกแกะเพื่อจะฟังเสียงปี่ที่เขาเป่าให้แกะฟังที่ทางน้ำของรูเบนมีการพิจารณาความมุ่งหมายของจิตใจ
17. กิเลอาดอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนส่วนดานอาศัยอยู่กับเรือกำปั่น ทำไมเล่าอาเชอร์นั่งเฉยอยู่ที่ฝั่งทะเลตั้งบ้านเรือนอยู่ตามท่าจอดเรือของเขา