9. นางจึงตอบว่า “ฉันจะไปกับท่านแน่ แต่ว่าทางที่ท่านไปนั้นจะไม่นำท่านไปถึงศักดิ์ศรี เพราะว่าพระเจ้าจะขายสิเสราไว้ในมือของหญิงคนหนึ่ง” แล้วนางเดโบราห์ก็ลุกขึ้นไปกับบาราคถึงเมืองเคเดช
10. บาราคจึงเรียกเศบูลุนกับนัฟทาลีให้ไปที่เคเดช มีคนหนึ่งหมื่นเดินตามขึ้นไปและนางเดโบราห์ก็ไปด้วย
11. มีชายคนหนึ่งชื่อเฮเบอร์คนเคไนต์ ได้แยกออกจากคนเคไนต์ทั้งหลาย คือจากพงศ์พันธุ์ของโฮบับพ่อตาของโมเสส มาตั้งเต็นท์อยู่ไกลออกไปถึงต้นก่อหลวงในศานันนิม ซึ่งอยู่ใกล้เมืองเคเดช
12. เมื่อมีคนไปแจ้งแก่สิเสราว่า บาราคบุตรอาบีโนอัมขึ้นไปที่ภูเขาทาโบร์แล้ว
13. สิเสราก็เรียกรถรบทั้งหมดของท่านออกมา เป็นรถเหล็กเก้าร้อยคัน รวมกับเหล่าทหารทั้งหมดที่ไปด้วย ยกไปจากเมือง ฮาโรเชทฮาโกยิมไปถึงแม่น้ำคีโชน
14. นางเดโบราห์จึงกล่าวแก่บาราคว่า “ลุกขึ้นเถิด เพราะว่านี่เป็นวันที่พระเจ้าทรงมอบสิเสราไว้ในมือของท่าน พระเจ้าเสด็จนำหน้าท่านไปมิใช่หรือ” บาราคจึงลงไปจากภูเขาทาโบร์พร้อมกับ ทหารหนึ่งหมื่นคนติดตามท่านไป
15. พระเจ้าทรงกระทำให้สิเสราพร้อมกับ รถรบทั้งสิ้นของท่าน และกองทัพทั้งหมดของท่านแตกตื่นพ่ายแพ้ ด้วยคมดาบต่อหน้าบาราค แล้วสิเสราก็ลงจากรถรบวิ่งหนีไป
16. และบาราคได้ไล่ติดตามรถรบทั้งหลายและกองทัพ ไปจนถึงฮาโรเชทฮาโกยิม และกองทัพของสิเสราก็ล้มตายด้วยคมดาบ ไม่เหลือสักคนเดียว
17. ฝ่ายสิเสราวิ่งหนีไปถึงเต็นท์ของยาเอล ภรรยาของเฮเบอร์คนเคไนต์ เพราะว่ายาบินกษัตริย์เมืองฮาโซร์เป็นไมตรี กันกับพงศ์พันธุ์เฮเบอร์คนเคไนต์