15. พระเจ้าทรงกระทำให้สิเสราพร้อมกับ รถรบทั้งสิ้นของท่าน และกองทัพทั้งหมดของท่านแตกตื่นพ่ายแพ้ ด้วยคมดาบต่อหน้าบาราค แล้วสิเสราก็ลงจากรถรบวิ่งหนีไป
16. และบาราคได้ไล่ติดตามรถรบทั้งหลายและกองทัพ ไปจนถึงฮาโรเชทฮาโกยิม และกองทัพของสิเสราก็ล้มตายด้วยคมดาบ ไม่เหลือสักคนเดียว
17. ฝ่ายสิเสราวิ่งหนีไปถึงเต็นท์ของยาเอล ภรรยาของเฮเบอร์คนเคไนต์ เพราะว่ายาบินกษัตริย์เมืองฮาโซร์เป็นไมตรี กันกับพงศ์พันธุ์เฮเบอร์คนเคไนต์
18. ยาเอลจึงออกไปต้อนรับสิเสราเรียนว่า “เจ้านายของดิฉันเจ้าข้า เชิญแวะเข้ามา เชิญแวะเข้ามาพักกับดิฉัน อย่ากลัวอะไรเลย” สิเสราจึงแวะเข้าไปในเต็นท์ และนางก็เอาผ้าห่มมาคลุมตัวให้
19. ท่านจึงพูดกับนางว่า “ขอน้ำให้เรากินสักหน่อยเพราะเรากระหายน้ำ” นางก็เปิดถุงน้ำนมให้ท่านดื่ม และเอาผ้าคลุมท่านไว้
20. สิเสราจึงบอกแก่นางอีกว่า “ขอยืนเฝ้าที่ประตูเต็นท์ ถ้ามีผู้ใดมาถามว่า ‘มีใครมาพักที่นี่บ้างหรือ’ จงบอกว่า ‘ไม่มี’ ”
21. แต่ยาเอลภรรยาของเฮเบอร์หยิบหลักขึงเต็นท์ ถือค้อนเดินย่องเข้ามา ตอกหลักเข้าที่ขมับของสิเสราทะลุติดดิน ขณะเมื่อสิเสรากำลังหลับสนิทอยู่เพราะความเหน็ดเหนื่อย แล้วสิเสราก็สิ้นชีวิต
22. และดูเถิด บาราคไล่ติดตามสิเสรามาถึง ยาเอลก็ออกไปต้อนรับเรียนท่านว่า “เชิญเข้ามาเถิด ดิฉันจะชี้ให้ท่านเห็นคนที่ท่านค้นหาอยู่นั้น” บาราคก็เข้าไปเห็นสิเสรานอนสิ้นชีวิตอยู่ มีหลักเต็นท์ในขมับ
23. ดังนี้แหละในวันนั้น พระเจ้าทรงกระทำให้ยาบินกษัตริย์คานาอันนอบน้อมต่อคน อิสราเอล
24. และมือของคนอิสราเอลก็กระทำต่อยาบินหนักขึ้น ทุกที จนเขาทั้งหลายได้ทำลายยาบินกษัตริย์เมืองคานาอันเสีย