2. แต่เพียงทรงให้ชาติพันธุ์คนอิสราเอลเข้าใจเรื่องการสงคราม เพื่ออย่างน้อยพระองค์จะได้ทรงสอนแก่ผู้ที่ยังไม่ทราบมาก่อน
3. คือเจ้านายทั้งห้าของพวกฟีลิสเตียคนคานาอันทั้งหมด ชาวไซดอนและคนฮีไวต์ผู้อาศัยอยู่บนภูเขาเลบานอน ตั้งแต่ภูเขาบาอัลเฮอร์โมน จนถึงทางเข้าเมืองฮามัท
4. เหลือคนเหล่านี้อยู่เพื่อทดสอบคนอิสราเอลเพื่อ ให้ทราบว่า อิสราเอลจะเชื่อฟังพระธรรมบัญญัติของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาไว้กับบรรพบุรุษของเขาโดย โมเสสนั้นหรือไม่
5. ดังนั้นแหละคนอิสราเอลจึงอาศัยอยู่ในหมู่คนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์และคนเยบุส
6. เขาไปสู่ขอบุตรสาวชนเหล่านั้นมาเป็นภรรยา และยกบุตรสาวของตนให้แก่บุตรชายของคนเหล่านั้นและได้ปรนนิบัติพระของเขาเหล่านั้น
7. คนอิสราเอลได้กระทำความชั่วในสายพระเนตรพระเจ้า ลืมพระเยโฮวาห์พระเจ้าของตนเสีย ไปปรนนิบัติพระบาอัลทั้งหลายและพวกพระอัชทาโรท
8. เพราะฉะนั้นพระพิโรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่ออิสราเอล และพระองค์ทรงขายเขาไว้ในมือคูชันริชาธาอิมกษัตริย์ เมืองเมโสโปเตเมีย และคนอิสราเอลได้ปฏิบัติคูชันริชาธาอิมแปดปี
9. แต่เมื่อคนอิสราเอลร้องทูลพระเจ้า พระเจ้าทรงให้เกิดผู้ช่วยแก่คนอิสราเอล ผู้ได้ช่วยเขาทั้งหลายให้รอด คือโอทนีเอลบุตรเคนัส น้องชายของคาเลบ
10. พระวิญญาณของพระเจ้าทรงสถิตกับโอทนีเอล และท่านจึงวินิจฉัยคนอิสราเอลและออกไปกระทำสงคราม และพระเจ้าทรงมอบคูชันริชาธาอิมกษัตริย์เมือง เมโสโปเตเมียไว้ในมือของท่าน และมือของท่านชนะคูชันริชาธาอิม
11. ดังนั้นแผ่นดินจึงได้หยุดพักสงบอยู่สี่สิบปี แล้วโอทนีเอลบุตรเคนัสก็สิ้นชีวิต
12. และคนอิสราเอลกระทำความชั่วในสายพระเนตร พระเจ้าอีก พระเจ้าจึงทรงเสริมกำลังเอกโลน กษัตริย์เมืองโมอับเพื่อ ต่อสู้อิสราเอล เพราะว่าเขาทั้งหลายได้ประพฤติชั่วในสายพระเนตรพระเจ้า
13. ท่านจึงได้ให้คนอัมโมนและคนอามาเลขมาสมทบ ยกไปโจมตีอิสราเอลและได้ยึดเมืองดงอินทผลัมไว้
14. และคนอิสราเอลจึงปฏิบัติเอกโลนกษัตริย์เมืองโมอับ อยู่ถึงสิบแปดปี
15. แต่เมื่อคนอิสราเอลร้องทูลพระเจ้า พระเจ้าทรงให้เกิดผู้ช่วยคนหนึ่งแก่เขาทั้งหลาย ชื่อเอฮูด บุตรเก-ราเผ่าเบนยามิน คนถนัดมือซ้าย คนอิสราเอลให้ท่านเป็นผู้นำส่วยไปมอบแก่เอกโลนกษัตริย์ เมืองโมอับ
16. เอฮูดได้ทำดาบสองคมไว้ประจำตัวเล่มหนึ่งยาวศอกหนึ่ง เหน็บไว้ใต้ผ้าที่ต้นขาขวา
17. เขาก็นำส่วยไปมอบแก่เอกโลนกษัตริย์เมืองโมอับ ฝ่ายเอกโลนเป็นคนอ้วนมาก
18. และเมื่อเอฮูดมอบส่วยเสร็จแล้ว ท่านจึงไปส่งคนที่หาบหามส่วยนั้น
19. แล้วตัวท่านกลับไปจาก รูปเคารพสลักที่อยู่ใกล้กิลกาลทูลว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ข้าพระบาทมีข้อราชการลับที่จะกราบทูลให้ทรงทราบ” กษัตริย์จึงมีบัญชาว่า “เงียบๆ” บรรดามหาดเล็กที่เฝ้าอยู่ก็ทูลลาออกไปหมด
20. และเอฮูดก็เข้าไปเฝ้าท่าน ขณะนั้นท่านประทับอยู่ลำพังในห้องเย็นชั้นบนของท่าน และเอฮูดทูลว่า “ข้าพระบาทมีพระดำรัสจากพระเจ้าถวายฝ่าพระบาท” ท่านจึงลุกขึ้นจากพระที่นั่ง