17. จำนวนคนอิสราเอลที่ถือดาบ ไม่นับคนเบนยามินได้สี่แสนคนเหล่านี้เป็นทหารทุกคน
18. คนอิสราเอลก็ลุกขึ้นไปยังเมืองเบธเอล และทูลถามพระเจ้าว่า “ผู้ใดในพวกข้าพระองค์ที่จะขึ้นไปสู้รบกับคน เบนยามินก่อน” พระเจ้าตรัสว่า “ให้ยูดาห์ขึ้นไปก่อน”
19. รุ่งเช้าคนอิสราเอลก็ลุกขึ้นตั้งค่ายต่อสู้เมืองกิเบอาห์
20. คนอิสราเอลออกไปสู้รบกับคนเบนยามิน และคนอิสราเอลได้วางพลเรียงรายต่อสู้เขาที่เมืองกิเบอาห์
21. ในวันนั้นคนเบนยามินออกมาจากเมืองกิเบอาห์ ฆ่าฟันคนอิสราเอลล้มตายสองหมื่นสองพันคน
22. แต่คนอิสราเอลยังหนุนใจกันและวางพลเรียงรายในที่ซึ่งเขา วางพลในวันแรก
23. และคนอิสราเอลก็ขึ้นไปร้องไห้ คร่ำครวญต่อพระเจ้าจนถึงเวลาเย็น เขาทั้งหลายทูลถามพระเจ้าว่า “สมควรที่ข้าพระองค์จะเข้าประชิดรบกับคนเบนยามิน พี่น้องของข้าพระองค์หรือไม่” พระเจ้าตรัสว่า “ไปสู้เขาเถิด”
24. คนอิสราเอลจึงยกเข้าประชิดคนเบนยามินในวันที่สอง
25. และในวันที่สองนั้นเบนยามินก็ยกออกไปจากกิเบอาห์ ฆ่าฟันคนอิสราเอลตายอีกหนึ่งหมื่นแปดพันคน ทุกคนเป็นทหารถือดาบ
26. แล้วบรรดาคนอิสราเอลคือกองทัพทั้งหมด ได้ขึ้นไปที่เบธเอลและร้องไห้คร่ำครวญ เขานั่งเฝ้าพระเจ้า และอดอาหารจนเวลาเย็น ถวายเครื่องเผาบูชาและศานติบูชาแด่พระเจ้า
27. คนอิสราเอลจึงทูลถามพระเจ้า (เพราะในสมัยนั้น หีบพันธสัญญาของพระเจ้าอยู่ที่นั่น
28. และฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์ ผู้เป็นบุตรอาโรน ก็ปรนนิบัติอยู่หน้าหีบนั้นในสมัยนั้น) เขาทูลถามว่า “สมควรที่ข้าพระองค์จะยังยกไปสู้รบกับ เบนยามินพี่น้องของข้าพระองค์อีกครั้งหนึ่ง หรือควรจะหยุดเสีย” และพระเจ้าตรัสว่า “จงยกขึ้นไปเถิด เพราะว่า พรุ่งนี้เราจะมอบเขาไว้ในมือของเจ้า”