13. เหตุฉะนั้นจงมอบชายอันธพาลในเมืองกิเบอาห์ มาให้เราประหารชีวิตเสีย จะได้กำจัดความชั่วเสียจากคนอิสราเอล” แต่คนเบนยามิน ไม่ยอมฟังเสียงคนอิสราเอลพี่น้องของตน
14. คนเบนยามินก็ออกมาจากบรรดาหัวเมืองเข้า ไปสู่กิเบอาห์พร้อมกัน เพื่อยกออกไปกระทำสงครามกับคนอิสราเอล
15. คราวนั้นคนเบนยามินรวมจำนวนทหารถือดาบออกจาก บรรดาหัวเมืองได้สองหมื่นหกพันคน นอกจากชาวเมืองกิเบอาห์ ซึ่งนับทหารที่คัดเลือกแล้วได้เจ็ดร้อยคน
16. ในจำนวนทั้งหมดนี้มีคนที่คัดเลือกแล้วเจ็ดร้อยคน ถนัดมือซ้ายทุกคนเอาสลิงเหวี่ยงก้อนหินให้ถูกเส้นผมได้ ไม่ผิดเลย
17. จำนวนคนอิสราเอลที่ถือดาบ ไม่นับคนเบนยามินได้สี่แสนคนเหล่านี้เป็นทหารทุกคน
18. คนอิสราเอลก็ลุกขึ้นไปยังเมืองเบธเอล และทูลถามพระเจ้าว่า “ผู้ใดในพวกข้าพระองค์ที่จะขึ้นไปสู้รบกับคน เบนยามินก่อน” พระเจ้าตรัสว่า “ให้ยูดาห์ขึ้นไปก่อน”
19. รุ่งเช้าคนอิสราเอลก็ลุกขึ้นตั้งค่ายต่อสู้เมืองกิเบอาห์
20. คนอิสราเอลออกไปสู้รบกับคนเบนยามิน และคนอิสราเอลได้วางพลเรียงรายต่อสู้เขาที่เมืองกิเบอาห์
21. ในวันนั้นคนเบนยามินออกมาจากเมืองกิเบอาห์ ฆ่าฟันคนอิสราเอลล้มตายสองหมื่นสองพันคน
22. แต่คนอิสราเอลยังหนุนใจกันและวางพลเรียงรายในที่ซึ่งเขา วางพลในวันแรก
23. และคนอิสราเอลก็ขึ้นไปร้องไห้ คร่ำครวญต่อพระเจ้าจนถึงเวลาเย็น เขาทั้งหลายทูลถามพระเจ้าว่า “สมควรที่ข้าพระองค์จะเข้าประชิดรบกับคนเบนยามิน พี่น้องของข้าพระองค์หรือไม่” พระเจ้าตรัสว่า “ไปสู้เขาเถิด”
24. คนอิสราเอลจึงยกเข้าประชิดคนเบนยามินในวันที่สอง
25. และในวันที่สองนั้นเบนยามินก็ยกออกไปจากกิเบอาห์ ฆ่าฟันคนอิสราเอลตายอีกหนึ่งหมื่นแปดพันคน ทุกคนเป็นทหารถือดาบ
26. แล้วบรรดาคนอิสราเอลคือกองทัพทั้งหมด ได้ขึ้นไปที่เบธเอลและร้องไห้คร่ำครวญ เขานั่งเฝ้าพระเจ้า และอดอาหารจนเวลาเย็น ถวายเครื่องเผาบูชาและศานติบูชาแด่พระเจ้า