ผู้‍วินิจ‌ฉัย 13:1-12 ฉบับ1971 (TH1971)

1. คน​อิส‌รา‌เอล​ก็​กระ‌ทำ​ชั่ว​ใน​สาย‍พระ‍เนตร​พระ‍เจ้า​อีก พระ‍เจ้า​ทรง​มอบ​เขา​ไว้​ใน​มือ​ของ​คน​ฟีลิส‌เตีย​สี่‍สิบ​ปี

2. มี​ชาย​คน​หนึ่ง​เป็น​ชาว​โศ‌ราห์​คน​เผ่า​ดาน ชื่อ​มา‌โน‌อาห์ ภรรยา​ของ​ท่าน​เป็น​หมัน​ไม่‍มี​บุตร​เลย

3. ทูต​ของ​พระ‍เจ้า​มา​ปรา‌กฏ​แก่​นาง​นั้น กล่าว​แก่​นาง​ว่า “ดู‍เถิด เจ้า​เป็น​หมัน​ไม่‍มี​บุตร แต่​เจ้า​จะ​ตั้ง​ครรภ์​คลอด​บุตร​เป็น​ชาย

4. เพราะ​ฉะนั้น​จง​ระวัง อย่า​ดื่ม​เหล้า‍องุ่น หรือ​เม‌รัย และ​อย่า​รับ‍ประ‌ทาน​ของ​มล‌ทิน

5. เพราะ​นี่‍แน่ะ เจ้า​จะ​ตั้ง​ครรภ์​และ​คลอด​บุตร​เป็น​ชาย อย่า​ให้​มีด‍โกน​ถูก​ศีรษะ​ของ​เขา เพราะ​เด็ก​คน​นี้​จะ​เป็น​พวก​นา‌ศีร์แด่ พระ‍เจ้า​ตั้ง‍แต่​เกิด​มา เขา​จะ​เป็น​คน​เริ่ม​ช่วย​กู้​คน​อิส‌รา‌เอล ให้​พ้น​จาก​เงื้อม​มือ​ของ​คน​ฟีลิส‌เตีย”

6. ฝ่าย​หญิง​นั้น​จึง​ไป​บอก​สามี​ว่า “มี​บุรุษ​ของ​พระ‍เจ้า​มา​หา​ดิฉัน หน้า‍ตา​ของ​ท่าน​เหมือน​หน้า‍ตา​ทูต​ของ​พระ‍เจ้า​น่า​กลัว​นัก ดิฉัน​ไม่​ได้​ถาม​ท่าน​ว่า​มา​จาก​ไหน และ​ท่าน​ก็​ไม่​บอก​ชื่อ​ของ​ท่าน​แก่​ดิฉัน

7. แต่​ท่าน​บอก​ดิฉัน​ว่า ‘ดู‍เถิด เจ้า​จะ​ตั้ง​ครรภ์​และ​คลอด​บุตร‍ชาย ฉะนั้น​อย่า​ดื่ม​เหล้า​องุ่น​หรือ​เม‌รัย อย่า​รับ‍ประ‌ทาน​ของ​มล‌ทิน เพราะ​เด็ก​นั้น​จะ​เป็น​พวก​นา‌ศีร์​แด่​พระ‍เจ้า​ตั้ง‍แต่​เกิด​มา จน​วัน​ตาย’ ”

8. แล้ว​มา‌โน‌อาห์​ก็​วิง‍วอน​พระ‍เจ้า​ทูล​ว่า “ข้า‍แต่​พระ‍เจ้า ขอ​บุรุษ​ของ​พระ‍เจ้า​ผู้​ซึ่ง​พระ‍องค์​ทรง​ใช้​มา​นั้น ปรา‌กฏ​แก่​ข้า‍พระ‍องค์​ทั้ง​สอง​อีก​ครั้ง​หนึ่ง สั่ง‍สอน​ข้า‍พระ‍องค์​ว่า ข้า‍พระ‍องค์​ควร​กระ‌ทำ​อย่าง‍ไร​แก่​เด็ก​ที่​จะ​เกิด​มา​นั้น”

9. และ​พระ‍เจ้า​ทรง​ฟัง​เสียง​ของ​มา‌โน‌อาห์ และ​ทูต​ของ พระ‍เจ้า​มา​หา​หญิง​นั้น​อีก เมื่อ​นาง​นั่ง​อยู่​ใน​ทุ่ง‍นา​แต่​มา‌โน‌อาห์​สามี​ของ​นาง ไม่‍ได้​อยู่​ด้วย

10. นาง​ก็​รีบ​วิ่ง​ไป​บอก​สามี​ว่า “ดู‍เถิด บุรุษ​ผู้​ที่​ปรา‌กฏ​แก่​ดิฉัน วัน‍นั้น​ได้​มา​ปรา‌กฏ​แก่​ดิฉัน​อีก”

11. มา‌โน‌อาห์​ก็​ลุก‍ขึ้น​ตาม​ภรรยา​ไป เมื่อ​มา​ถึง​บุรุษ​ผู้‍นั้น​เขา​จึง​ว่า “ท่าน​เป็น​บุรุษ​ผู้​ที่​พูด​กับ​ผู้หญิง​คน​นี้​หรือ” ผู้‍นั้น​ตอบ​ว่า “เรา​เป็น​ผู้‍นั้น​แหละ”

12. มา‌โน‌อาห์​จึง​กล่าว​ว่า “เมื่อ​เกิด​เป็น​จริง​ตาม​ถ้อย‍คำ​ของ​ท่าน​แล้ว ชีวิต​ของ​เด็ก​คน​นั้น​จะ​เป็น​อย่าง‍ไร เขา​จะ​กระ‌ทำ​อะไร”

ผู้‍วินิจ‌ฉัย 13