5. พระเจ้าทรงกลายเป็นศัตรูพระองค์ได้ทรงทำลายพวกอิสราเอลเสียพระองค์ได้ทรงทำลายบรรดาวังของเขาหมดและได้ทรงทำลายที่กำบังของเขาให้ปรักหักพังทรงทวีความเศร้าโศกและการคร่ำครวญในธิดาแห่งยูดาห์
6. พระองค์ได้ทรงพังพลับพลา ของพระองค์เสียเหมือนหนึ่งเป็นเพิงในสวนทรงให้สถานประชุมของพระองค์ปรักหักพังไปพระเจ้าได้ทรงกระทำทั้งเทศกาลและวันสะบาโตให้หมดสิ้นไปในศิโยนด้วยพระพิโรธ พระองค์ทรงดูถูกองค์กษัตริย์และปุโรหิต
7. พระเจ้าได้ทรงทิ้งแท่นบูชาของพระองค์เสียพระองค์ทรงเกลียดสถานนมัสการของพระองค์กำแพงวังทั้งหลายนั้นพระองค์ได้ทรงมอบไว้ในเงื้อมมือศัตรูเขาทั้งหลายได้ส่งเสียงอึกทึกในพระนิเวศแห่งพระเจ้าเหมือนอย่างในวันเทศกาล
8. พระเจ้าได้ทรงตั้งพระทัยไว้แล้วที่จะทำลายกำแพงของธิดาแห่งศิโยนเสียพระองค์ได้ทรงขึงเส้นวัดไว้แล้วพระองค์มิได้ทรงหดพระหัตถ์เลิกการทำลายเหตุฉะนี้พระองค์ได้ทรงกระทำให้ เนินดินและกำแพงนั้นคร่ำครวญให้ทรุดโทรมร่วงโรยไปด้วยกัน
9. ประตูเมืองศิโยนทั้งสิ้นทรุดลงในดินแล้วพระองค์ได้ทรงทำลาย และทรงหักดาลประตูทั้งปวงเสียสิ้นกษัตริย์และเจ้านายทั้งหลายแห่งศิโยนก็ตกอยู่ท่ามกลางประชาชาติที่ที่ไม่มีธรรมบัญญัติเออ บรรดาผู้เผยพระวจนะแห่งเมืองศิโยนหาได้รับนิมิตจากพระเจ้าอีกไม่
10. พวกผู้ใหญ่ของธิดาแห่งศิโยน1ก็กำลังนั่งเงียบอยู่บนพื้นแผ่นดินเขาทั้งหลายเอาผงคลีดินซัดขึ้นบนศีรษะของตัวและนุ่งห่มผ้ากระสอบ สาวพรหมจารีทั้งหลายแห่งกรุงเยรูซาเล็ม2คอตก
11. นัยน์ตาของข้าพเจ้าก็ร่วงโรยเพราะร้องไห้จิตวิญญาณของข้าพเจ้าก็ระทมเพราะความพินาศของธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้าจิตใจของข้าพเจ้าก็ระทมและเพราะเหล่าลูกเด็กเล็กแดงที่ดูดนมอยู่นั้นเป็นลมสลบอยู่ตามลานในกรุง
12. ลูกทั้งหลายถามแม่ของตัวว่า“แม่จ๋า ข้าวและเหล้าองุ่นอยู่ที่ไหน”เขาพากันถาม ขณะเมื่อเขาเป็นลมดุจคนที่ถูกบาดเจ็บที่ลานในกรุงเมื่อชีวิตของเขาต้องสิ้นไปที่อกแม่ของเขาทั้งหลาย
13. โอ ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ข้าพเจ้าจะเอาอะไรมาเปรียบกับเจ้าได้ข้าพเจ้าจะเปรียบเจ้ากับอะไรโอ ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยนเอ๋ยข้าพเจ้าจะเอาเจ้าไปเปรียบได้แก่อะไร เพื่อข้าพเจ้าจะเล้าโลมเจ้าได้เพราะความอับปางของเจ้าก็ใหญ่เทียมเท่าสมุทรผู้ใดจะให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิมเล่า
14. ผู้เผยพระวจนะของเจ้าได้เห็นนิมิตลวงและนิมิตไม่เป็นเรื่องเป็นราวมาบอกเจ้าแทนที่เขาจะเผยบาปของเจ้าออกมาให้ประจักษ์เพื่อจะให้เจ้ากลับสู่สภาพดีเขาทั้งหลายกลับได้ครุวาทเป็นเหตุให้เจ้าหลง
15. บรรดาคนที่ได้ผ่านเจ้าไปก็ได้ตบมือเยาะเจ้าเขาทั้งหลายได้หยัน และได้สั่นศีรษะเยาะธิดาแห่งเยรูซาเล็มแล้วว่า“นี่หรือคือกรุง ที่คนทั้งหลายได้ขนานนามว่างามหมดจดว่าเป็นความชื่นชมยินดีของคนทั่วทั้งโลก”
16. บรรดาศัตรูของเจ้าได้อ้าปากตะโกนโพนทะนาเจ้าเขาทั้งหลายแสยะปากและขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเขาพากันร้องว่า “พวกเราได้ทำลายเมืองนี้แล้ววันนี้แหละ คือวันที่พวกเราได้จ้องมองหาพวกเราได้พบแล้ว พวกเราเห็นแล้ว”
17. พระเจ้าได้ทรงกระทำตามพระประสงค์แล้วได้ทรงกระทำให้พระดำรัสของพระองค์สำเร็จตามที่พระองค์ได้สถาปนาไว้นานแล้วพระองค์ก็ได้ทรงทำลายลงอย่างไม่มีพระเมตตาพระองค์ทรงกระทำให้ศัตรูเปรมปรีดิ์เย้ยเจ้าพระองค์ได้ทรงชูกำลังพวกศัตรูของเจ้าขึ้น
18. จิตใจของเขาทั้งหลายร้องทูลพระเจ้าว่าโอ กำแพงของธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ยจงหลั่งน้ำตาให้ไหลอาบทั้งกลางวันและกลางคืนดุจน้ำในลำธารเจ้าอย่าได้หยุดหย่อนเลยอย่าให้น้ำตาแห้งจากลูกตาเลย
19. จงลุกขึ้นร้องไห้ในกลางคืน ตามยามระบายความในใจของเจ้าออกมาอย่างน้ำตรงพระพักตร์พระเจ้าจงชูมือทั้งสองของเจ้าขึ้นตรงไปยังพระองค์เพื่อขอชีวิตของบรรดาลูกเด็กเล็กแดงของเจ้าที่หิวจนเป็นลมสลบไปตามหัวถนนหนทางทุกแห่ง
20. ข้าแต่พระเจ้า ขอทอดพระเนตรเถิดว่าพระองค์ได้ทรงกระทำการเช่นนี้แก่ผู้ใดควรที่พวกผู้หญิงจะกินลูกของตนหรือจะกินทารกที่ยังอุ้มอยู่หรือพวกปุโรหิตและพวกผู้เผยพระวจนะควรจะถูกประหารในสถานนมัสการขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ