9. พระกรุณา และการอภัยโทษเป็นของพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายได้กบฏต่อพระองค์
10. และมิได้ฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้า ของข้าพระองค์ ด้วยการกระทำตามบทบัญญัติของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงตั้งไว้ต่อหน้าข้าพระองค์ทั้งหลาย โดยบรรดาผู้เผยพระวจนะผู้รับใช้ของพระองค์
11. เออ อิสราเอลทั้งผองได้กระทำผิดต่อธรรม บัญญัติของพระองค์และได้หันไปเสีย ไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และการสาปแช่งและการปฏิญาณ ซึ่งจารึกไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า จึงถูกเทลงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์
12. พระองค์ได้ทรงยืนยันถ้อยคำของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ตรัสกล่าวโทษข้าพระองค์ทั้งหลาย และกล่าวโทษผู้ปกครองซึ่งปกครองข้าพระองค์ โดยนำให้ข้าพระองค์เกิดวิบัติอย่างใหญ่หลวง เพราะว่าภายใต้สวรรค์ทั้งสิ้น ไม่มีที่ใดที่ได้ถูกกระทำเหมือนที่ได้กระทำแก่เยรูซาเล็ม
13. ดังที่ได้จารึกไว้ในบัญญัติของโมเสสแล้ว วิบัติทั้งสิ้นก็ได้ตกอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว แต่ข้าพระองค์ทั้งหลายยังมิได้ทูลวิงวอนขอ พระกรุณาจากพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย โดยหันเสียจากความบาปชั่วของข้าพระองค์ และเชื่อฟังความจริงของพระองค์
14. เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงเก็บความวิบัติไว้พร้อมและได้ทรง นำมาเหนือเราทั้งหลาย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายทรงเป็น ผู้ชอบธรรมในสรรพกิจ ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำ และข้าพระองค์ทั้งหลายมิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์
15. ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงนำชนชาติของพระองค์ออกจากแผ่นดินอียิปต์ ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และได้ทำให้พระนามลือมาจนทุกวันนี้ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาป และข้าพระองค์ ทั้งหลายกระทำความอธรรม
16. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ตามการกระทำอันชอบธรรมทั้งสิ้นของพระองค์ ขอให้ความกริ้วและพิโรธของพระองค์หันกลับ เสียจากเยรูซาเล็มนครของพระองค์ ภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์ เพราะบาปของข้าพระองค์ทั้งหลาย และความบาปชั่วของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย เยรูซาเล็มและประชากรของพระองค์จึงกลาย เป็นที่เยาะเย้ยในหมู่คนทั้งสิ้นที่อยู่รอบข้าพระองค์