13. “ในนิมิตที่ผุดขึ้นในศีรษะของเราเมื่อเราอยู่บนที่นอน ดูเถิด เราได้เห็นผู้พิทักษ์ องค์บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์
14. ท่านเปล่งเสียงและพูดดังนี้ว่า ‘ตัดต้นก่อหลวงและทอนกิ่งออกเสีย ลิดใบออกแล้วให้ผลของมันกระจาย ไปให้สัตว์ป่าหนีไปเสียจากใต้ต้น และให้นกหนีไปเสียจากกิ่งของมัน
15. แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีแผ่นเหล็กและทองสัมฤทธิ์มัดไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนา ให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้เขามีส่วนอยู่กับสัตว์ป่าในหญ้าที่พื้นดิน
16. ให้จิตใจของเขาเปลี่ยนเสียจากจิตใจมนุษย์ แล้วมอบใจสัตว์ป่าให้แก่เขา และปล่อยให้เป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ
17. คำพิพากษานั้นเป็นคำสั่งของผู้พิทักษ์ คำตัดสินนั้นเป็นวาทะขององค์บริสุทธิ์ เพื่อผู้มีชีวิตอยู่จะได้ทราบว่าท่านผู้ สูงสุดทรงปกครองอยู่เหนือราชอาณาจักรของมนุษย์ และประทานราชอาณาจักรนั้นแก่ผู้ที่พระองค์จะประทาน และตั้งผู้ที่ด้อยที่สุดให้อยู่เหนือ’
18. ความฝันนี้ตัวเราคือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้เห็น และโอ เบลเทชัสซาร์ ท่านจงกล่าวคำแก้ฝันเถิด เพราะพวกนักปราชญ์ทั้งสิ้นแห่งราชอาณาจักรของเรา ไม่สามารถที่จะให้คำแก้ความฝันแก่เรา แต่ท่านสามารถ เพราะวิญญาณของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์อยู่ในตัวท่าน”
19. แล้วดาเนียล ผู้มีชื่อว่าเบลเทชัสซาร์ ก็งงงันอยู่ประเดี๋ยวหนึ่ง ความคิดของท่านก็กระทำให้ท่านตกใจ พระราชาตรัสว่า “เบลเทชัสซาร์เอ๋ย อย่าให้ความฝันหรือคำแก้ความฝัน กระทำให้ท่านตกใจเลย” เบลเทชัสซาร์ทูลตอบว่า “เจ้านายของข้าพระบาท ขอให้ความฝันนั้นเป็นเรื่องของผู้ที่เกลียดชังพระองค์เถิด และขอให้คำแก้ความฝันนั้นตกแก่ปฏิปักษ์ของพระองค์
20. ต้นก่อหลวงที่ฝ่าพระบาททอดพระเนตร ซึ่งเติบโตขึ้นและแข็งแรง จนยอดขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ ประจักษ์ไปทั่วพิภพทั้งสิ้น
21. ใบของมันก็งดงาม และผลก็อุดม และจากต้นนั้นมีอาหารให้แก่ชีวิตทั้งปวง สัตว์ป่าในทุ่งนามาพึ่งร่มอยู่ใต้ต้น และนกในอากาศก็มาอาศัยอยู่ที่กิ่ง
22. ข้าแต่พระราชานี่คือฝ่าพระบาทเอง ผู้ทรงเจริญและเข้มแข็ง ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้เจริญ และขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และราชอาณาจักรของพระองค์ก็ไปถึงสุดปลายพิภพ
23. และที่พระราชาทอดพระเนตร ผู้พิทักษ์คือองค์บริสุทธิ์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ และพูดว่า ‘ตัดต้นก่อหลวงลงและทำลายเสีย แต่จงปล่อยให้ตอรากติดอยู่ในดิน มีแผ่นเหล็ก และทองสัมฤทธิ์มัดไว้ ให้อยู่ท่ามกลางหญ้าอ่อนในทุ่งนาให้เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ ให้เขามีส่วนอยู่กับสัตว์ป่า และปล่อยให้อยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ’
24. ข้าแต่พระราชาต่อไปนี้เป็นคำแก้พระสุบิน เป็นพระราชกฤษฎีกามาจากผู้สูงสุด ซึ่งมาถึงพระราชาเจ้านายของข้าพระบาท
25. ว่าฝ่าพระบาทจะทรงถูกขับไล่ไปเสียจากท่ามกลางมนุษย์ และฝ่าพระบาทจะอยู่กับสัตว์ในทุ่งนา ฝ่าพระบาทจะต้องเสวยหญ้าอย่างกับโค และจะให้ฝ่าพระบาทเปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จะเป็นอยู่อย่างนั้นจนครบเจ็ดวาระ จนกว่าฝ่าพระบาทจะทราบว่า ผู้สูงสุดนั้นทรงปกครองราชอาณาจักรของมนุษย์ และพระองค์จะประทานราชอาณาจักรนั้น แก่ผู้ที่พระองค์จะประทาน
26. และที่ทรงมีพระบัญชาให้เหลือตอ รากต้นก่อหลวงนั้นไว้ก็หมายความว่า ราชอาณาจักรจะยังเป็นของฝ่าพระบาท ตั้งแต่ฝ่าพระบาททรงทราบว่าสวรรค์ปกครอง
27. ข้าแต่พระราชา เพราะฉะนั้นขอทรงรับคำกราบทูลของข้าพระบาท ขอฝ่าพระบาททรงเลิกทำบาปเสียด้วยการกระทำ ความชอบธรรม และเลิกทำความบาปชั่วด้วยสำแดงความกรุณาต่อผู้ที่ถูก บีบบังคับ เผื่อว่าความผาสุกของฝ่าพระบาทอาจจะยืดยาวไปอีกได้”
28. สิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นได้บังเกิดขึ้นแก่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
29. พอสิ้นสิบสองเดือน พระองค์เสด็จดำเนินอยู่บนดาดฟ้าพระราชวังที่บาบิโลน
30. และพระราชาตรัสว่า “นี่เป็นมหาบาบิโลนมิใช่หรือ ซึ่งเราได้สร้างไว้ด้วยอำนาจใหญ่ยิ่งของเรา ให้เป็นราชฐานและเพื่อเป็นศักดิ์ศรีอันสูงส่งของเรา”
31. เมื่อพระราชาตรัสยังไม่ทันขาดพระวาทะ ก็มีเสียงตกลงมาจากฟ้าสวรรค์ว่า “โอ กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ เราลั่นวาจาไว้กับเจ้าแล้วว่า ราชอาณาจักรได้พรากไปเสียจากเจ้าแล้ว