7. “บุตรีของเศโลเฟหัดพูดถูกต้องแล้ว เจ้าจงให้กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นมรดกท่ามกลาง พี่น้องบิดาของเขา และกระทำให้มรดกบิดาของเขาตกทอดมาถึงเขา
8. เจ้าจงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ‘ถ้าผู้ชายคนหนึ่งตายและไม่มีบุตรชาย เจ้าจงให้มรดกของเขาตกไปยังบุตรีของเขา
9. และถ้าเขาไม่มีบุตรี เจ้าจงให้มรดกของเขาแก่พี่น้องของเขา
10. และถ้าเขาไม่มีพี่น้อง เจ้าจงให้มรดกของเขาแก่พี่น้องบิดาของเขา
11. และถ้าบิดาของเขาไม่มีพี่น้อง เจ้าจงให้มรดกแก่ญาติถัดตัวเขาไปในตระกูลของเขา ให้ผู้นั้นถือกรรมสิทธิ์ได้ ให้เป็นกฎเกณฑ์และกฎหมายแก่ประชาชนอิสราเอล ดังที่พระเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้”
12. พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงขึ้นไปบนภูเขาอาบาริมนี้ และมองดูแผ่นดินซึ่งเรามอบให้แก่คนอิสราเอล
13. และเมื่อเจ้าได้เห็นแล้ว เจ้าจะถูกรวบไปอยู่กับประชาชนของเจ้า อย่างอาโรนพี่ชายของเจ้าได้ถูกรวบไปนั้น
14. เพราะว่าเจ้าทั้งสองกบฏต่อถ้อยคำของ เราในถิ่นทุรกันดารศินระหว่างที่ชุมนุมชนได้โต้แย้งขึ้น เจ้ามิได้ยกย่องเราต่อหน้าเขาทั้งหลาย ที่น้ำนั้น” (นี่คือน้ำเมรีบาห์แห่งคาเดชในถิ่นทุรกันดารศิน)
15. โมเสสกราบทูลพระเจ้าว่า
16. “ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งจิตวิญญาณมนุษย์ทั้งปวง ทรงแต่งตั้งชายผู้หนึ่งไว้เหนือชุมนุมชนนี้
17. ผู้ซึ่งจะเข้านอกออกในต่อหน้าเขา ผู้ซึ่งจะนำเขาเข้าออก เพื่อว่าชุมนุมชนของพระเจ้าจะมิได้เหมือนกับฝูงแกะที่ ไม่มีผู้เลี้ยง”