6. และดูเถิด มีชายอิสราเอลคนหนึ่งพาหญิง คนมีเดียนคนหนึ่งเข้ามาในครอบครัวต่อหน้าโมเสส และต่อหน้าชุมนุมชนทั้งหมดของอิสราเอล ขณะเมื่อเขาทั้งหลายกำลังร้องไห้อยู่ที่ประตูเต็นท์นัดพบ
7. ครั้นฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์ บุตรของอาโรนปุโรหิตเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นไปจากชุมนุมชน มือถือทวน
8. ติดตามชายอิสราเอลคนนั้นเข้าไปในห้องชั้นใน และแทงทะลุร่างกายเขาทั้งคู่ ทั้งชายอิสราเอลและหญิงคนนั้น แล้วภัยพิบัติในอิสราเอลก็สงบ
9. แต่อย่างไรก็ตาม คนที่ตายด้วยภัยพิบัติมีสองหมื่นสี่พันคน
10. พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า
11. “ฟีเนหัส บุตรเอเลอาซาร์ บุตรอาโรนปุโรหิต ได้ยับยั้งความกริ้วของเราต่อคนอิสราเอล ในการที่เขาหึงหวงด้วยความหึงหวงของเราที่มีต่อประชาชน ดังนั้นเราจึงมิได้เผาผลาญคนอิสราเอลเสียด้วยความ หึงหวงของเรา
12. ดังนั้นจงกล่าวว่า ‘ดูเถิด เราให้ศานติพันธสัญญาแก่เขา
13. พันธสัญญานั้นจะเป็นของเขา และของเชื้อสายของเขา เป็นพันธสัญญาแห่งตำแหน่งปุโรหิตอันถาวร เพราะเขาหึงหวงเพื่อพระเจ้าของเขา และได้ทำการลบมลทินบาปคนอิสราเอล’ ”
14. ชื่อของชายอิสราเอลคนที่ถูกฆ่าร่วมกับหญิงชาว มีเดียนคนนั้นชื่อศิมรี บุตรของสาลู หัวหน้าของตระกูลหนึ่งในเผ่าสิเมโอน