8. และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงทำงูแมวเซาตัวหนึ่งติดไว้ที่เสา ทุกคนที่ถูกงูกัด เมื่อเขามองดู เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้”
9. ดังนั้นโมเสสจึงทำงูทองสัมฤทธิ์ตัวหนึ่ง และติดไว้ที่เสา แล้วถ้างูกัดคนใด ถ้าเขามองดูงูทองสัมฤทธิ์นั้น เขาก็มีชีวิตอยู่ได้
10. และคนอิสราเอลก็ยกออกเดิน ไปตั้งค่ายอยู่ที่โอโบท
11. และเขาออกเดินจากโอโบทไปตั้งค่ายอยู่ที่อิเยอาบาริม อยู่ในถิ่นทุรกันดารตรงข้ามโมอับ ทางทิศตะวันขึ้น
12. เขายกออกจากที่นั่นมาตั้งค่ายอยู่ที่หุบเขาเศเรด
13. เขายกออกจากที่นั่นไปตั้งอยู่ที่ฟากเหนือของลุ่มแม่น้ำ อารโนน ซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดารที่ยืดมาจากพรมแดนของคนอาโมไรต์ เพราะว่าแม่น้ำอารโนนเป็นพรมแดนของโมอับ ระหว่างโมอับกับคนอาโมไรต์
14. ดังนั้นในหนังสือสงครามของพระเจ้าจึงมีว่าวาเฮบในเมืองสุฟาห์ และลุ่มแม่น้ำอารโนน
15. และที่เชิงลาดของที่ลุ่มเหล่านั้นซึ่งยืดไป จนถึงที่ตั้งเมืองอาร์และพาดพิงไปถึงพรมแดนโมอับ
16. จากที่นั่นเขาออกเดินต่อไปถึงเมืองเบเออร์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงรวบรวมประชาชนเข้าด้วยกันเราจะให้น้ำแก่เขา”
17. แล้วอิสราเอลจึงร้องเพลงนี้ว่าบ่อน้ำเอย จงมีน้ำพลุ่งขึ้นมา - -ให้เรามาร้องเพลงกัน - - -
18. เป็นบ่อน้ำที่หัวหน้าได้ขุดไว้เป็นบ่อที่เจ้านายของประชาชนเจาะไว้ด้วยคทาและไม้เท้าของท่านเหล่านั้นและจากถิ่นทุรกันดารนั้นไปเขาก็มาถึงมัทธานาห์
19. และจากมัทธานาห์ถึงตำบลนาหะลีเอล และจากนาหะลีเอลถึงตำบลบาโมท
20. และจากบาโมทถึงหุบเขา ซึ่งอยู่ในท้องถิ่นโมอับข้างยอดเขา ปิสกาห์ซึ่งมองลงมาเห็นเยชีโมน
21. แล้วอิสราเอลส่งผู้สื่อสารไปหาสิโหน กษัตริย์คนอาโมไรต์กล่าวว่า