4. และเอเลอาซาร์จะเอานิ้วมือจุ่มเลือดวัว พรมที่ข้างหน้าเต็นท์นัดพบเจ็ดครั้ง
5. และให้มีคนเผาวัวตัวเมียนั้นเสียต่อหน้าเขา คือหนัง เนื้อ และเลือด กับมูลของมันให้เผาเสียหมด
6. และปุโรหิตจะเอาไม้สนสีดาร์ ไม้หุสบกับด้ายสีแดงโยนเข้าไปในไฟ ที่เผาวัวตัวเมียนั้น
7. แล้วปุโรหิตจะซักเสื้อผ้าของตน และชำระร่างกายเสียในน้ำ ภายหลังจึงเข้าไปในค่าย และปุโรหิตนั้นจึงเป็นมลทินอยู่จนถึงเวลาเย็น
8. ผู้ใดที่ทำการเผาวัวตัวเมีย ต้องซักเสื้อผ้าและชำระร่างกายของตนเสียในน้ำ และเขาจะเป็นมลทินอยู่จนถึงเวลาเย็น
9. ให้ชายคนที่สะอาดเก็บขี้เถ้าวัวตัวเมีย นำไปไว้นอกค่ายในที่สะอาด ให้เก็บขี้เถ้านั้นไว้เพื่อคนอิสราเอล เพื่อทำน้ำชำระมลทินสำหรับล้างบาป
10. และคนที่เก็บขี้เถ้าของวัวตัวเมียต้องซักเสื้อผ้าของตน และเขาจะเป็นมลทินอยู่จนถึงเวลาเย็น จะเป็นอย่างนี้แก่คนอิสราเอล และแก่คนต่างด้าวผู้อาศัยอยู่ท่ามกลางเขา เป็นกฎเกณฑ์ถาวร
11. “ผู้ที่แตะต้องศพของผู้ใดก็ตามต้องเป็นมลทินอยู่เจ็ดวัน
12. ในวันที่สามและวันที่เจ็ดเขาต้องชำระตัว ด้วยน้ำแล้วเขาจะสะอาด ถ้าเขาไม่ชำระตัวในวันที่สามและวันที่เจ็ด เขาจะสะอาดไม่ได้
13. ผู้ใดแตะต้องคนตาย คือร่างกายของคนที่ตายแล้ว และมิได้ชำระตน ผู้นั้นก็กระทำให้พลับพลาของพระเจ้ามีมลทิน ต้องอเปหิคนนั้นออกจากอิสราเอล เพราะมิได้เอาน้ำชำระมลทินสาดเขา เขาจะเป็นมลทิน มลทินยังค้างอยู่ที่เขา
14. “ต่อไปนี้เป็นบัญญัติเรื่องคนตายในเต็นท์ ทุกคนที่เข้ามาในเต็นท์ หรือทุกคนที่อยู่ในเต็นท์ จะเป็นมลทินไปเจ็ดวัน