10. และคนที่เก็บขี้เถ้าของวัวตัวเมียต้องซักเสื้อผ้าของตน และเขาจะเป็นมลทินอยู่จนถึงเวลาเย็น จะเป็นอย่างนี้แก่คนอิสราเอล และแก่คนต่างด้าวผู้อาศัยอยู่ท่ามกลางเขา เป็นกฎเกณฑ์ถาวร
11. “ผู้ที่แตะต้องศพของผู้ใดก็ตามต้องเป็นมลทินอยู่เจ็ดวัน
12. ในวันที่สามและวันที่เจ็ดเขาต้องชำระตัว ด้วยน้ำแล้วเขาจะสะอาด ถ้าเขาไม่ชำระตัวในวันที่สามและวันที่เจ็ด เขาจะสะอาดไม่ได้
13. ผู้ใดแตะต้องคนตาย คือร่างกายของคนที่ตายแล้ว และมิได้ชำระตน ผู้นั้นก็กระทำให้พลับพลาของพระเจ้ามีมลทิน ต้องอเปหิคนนั้นออกจากอิสราเอล เพราะมิได้เอาน้ำชำระมลทินสาดเขา เขาจะเป็นมลทิน มลทินยังค้างอยู่ที่เขา
14. “ต่อไปนี้เป็นบัญญัติเรื่องคนตายในเต็นท์ ทุกคนที่เข้ามาในเต็นท์ หรือทุกคนที่อยู่ในเต็นท์ จะเป็นมลทินไปเจ็ดวัน
15. ภาชนะทุกลูกที่ไม่มีฝาปิด ต้องเป็นมลทิน
16. คนใดที่อยู่ในพื้นทุ่งไปแตะต้องคนที่ถูกดาบตาย หรือแตะต้องศพหรือกระดูกคน หรือหลุมศพจะเป็นมลทินไปเจ็ดวัน
17. สำหรับคนที่เป็นมลทินนี้ จงเอาขี้เถ้าจากการบูชาไถ่บาป และเอาน้ำที่ไหลเติมเข้าไปปนในภาชนะ
18. ให้คนสะอาดเอากิ่งหุสบ จุ่มน้ำนั้น ประพรมที่เต็นท์และเครื่องใช้สอยทั้งสิ้น และบนตัวคนที่อยู่ที่นั่น และบนตัวคนที่แตะต้องกระดูกหรือคนถูกฆ่า หรือคนตายหรือหลุมศพ
19. ให้คนสะอาดประพรมคนที่เป็นมลทิน ในวันที่สามและวันที่เจ็ด อย่างนี้พอวันที่เจ็ดเขาจะทำให้คนนั้นสะอาด และเขาต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ พอถึงเวลาเย็นเขาจะสะอาด