8. และโมเสสพูดกับโคราห์ว่า “พวกท่านผู้เป็นบุตรของเลวีจงฟัง
9. เป็นการเล็กน้อยสำหรับท่านอยู่หรือ ซึ่งพระเจ้าแห่งอิสราเอลได้ แยกท่านออกจากชุมนุมชนอิสราเอล เพื่อนำท่านให้มาใกล้พระองค์ ให้ปฏิบัติงานในพลับพลาของ พระเจ้าและยืนอยู่ต่อหน้าชุมนุมชนเพื่อปรนนิบัติเขา
10. และพระองค์ทรงนำท่านมาใกล้พระองค์ รวมทั้งพี่น้องทั้งสิ้นของท่าน คือบุตรหลานของเลวี ท่านทั้งหลายแสวงหาตำแหน่งปุโรหิตด้วยหรือ
11. เพราะฉะนั้นที่ท่านและพรรคพวกของท่านได้ ประชุมกันก็เป็นการต่อสู้พระเจ้า ส่วนอาโรนเป็นอะไรเล่าที่ท่านได้บ่นว่าเขา”
12. โมเสสใช้ให้ไปเรียกดาธานและอาบีรัมบุตรเอลีอับ เขาทั้งสองว่า “เราไม่ขึ้นไป
13. เป็นการเล็กน้อยอยู่หรือที่ท่านนำ พวกเราจากแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ เพื่อจะฆ่าพวกเราเสียในถิ่นทุรกันดาร และท่านจะได้ตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้านายเหนือพวกเราด้วย
14. ยิ่งกว่านั้นอีก ท่านมิได้นำพวกเราเข้าไปยังแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ มิได้ให้พวกเรารับที่นาหรือสวนองุ่นเป็นมรดก ท่านจะควักตาคนเหล่านี้ออกเสียหรือ เราไม่ขึ้นไป”
15. โมเสสโกรธมากและกราบทูลพระเจ้าว่า “ขออย่าทรงโปรดปรานเครื่องบูชาของเขาเลย ข้าพระองค์มิได้เอาลาของเขามาสักตัวหนึ่ง และข้าพระองค์มิได้ทำอันตรายเขาสักคนเดียว”
16. และโมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ตัวท่านและพรรคพวกของท่านจงเข้าเฝ้าพระเจ้าในวันพรุ่งนี้ ทั้งตัวท่านพรรคพวกของท่านและอาโรน
17. ให้ทุกคนนำกระถางไฟของตนไป ใส่เครื่องหอมในนั้น ให้ทุกคนนำกระถางไฟเข้าเฝ้าต่อพระเจ้า มีกระถางไฟสองร้อยห้าสิบด้วยกัน ตัวท่านด้วยและอาโรน ต่างจงเอากระถางไฟของตนไป”
18. ดังนั้นทุกคนจึงนำกระถางไฟของเขา ต่างเอาไฟใส่และเอาเครื่องหอมใส่ และเขาไปยืนอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ พร้อมกับโมเสสและอาโรน
19. โคราห์ก็ร่วมชุมนุมชนที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ ประจัญหน้าเขาทั้งสอง และพระสิริของพระเจ้าก็ปรากฏต่อชุมนุมชน
20. พระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า
21. “จงแยกตัวออกเสียจากชุมนุมชนนี้ เพื่อเราจะผลาญเขาเสียในพริบตาเดียว”