10. จงทราบเถิดว่า พระวจนะของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าตรัสเกี่ยวกับราชวงศ์ของอาหับ จะไม่ตกดินแต่อย่างไรเลย เพราะพระเจ้าทรงกระทำตามที่พระองค์ตรัสโดยเอลียาห์ ผู้รับใช้ของพระองค์”
11. เยฮูทรงประหารราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ ในยิสเรเอลคนใหญ่คนโตทุกคนของพระองค์ และสหายสนิทของพระองค์และปุโรหิตของพระองค์ดังนี้ แหละไม่เหลือไว้สักคนเดียวเลย
12. แล้วพระองค์ก็ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังสะมาเรีย เมื่อพระองค์ประทับที่เบธเอเขดหมู่บ้านของผู้เลี้ยงแกะ ตามทางที่เสด็จ
13. เยฮูทรงพบพระญาติของอาหัสยาห์พระราชาแห่งยูดาห์ และพระองค์ตรัสถามว่า “ท่านทั้งหลายคือใคร” และเขาทั้งหลายทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายคือญาติของอาหัสยาห์ และข้าพเจ้าทั้งหลายลงมาเยี่ยมบรรดา ราชโอรสและโอรสของราชมารดา”
14. พระองค์รับสั่งว่า “จับเขาทั้งเป็น” เขาทั้งหลายก็จับเขาทั้งเป็น และประหารเขาเสียที่บ่อเบธเอเขดสี่สิบสองคนด้วยกัน ไม่เหลือไว้สักคนเดียว
15. และเมื่อพระองค์เสด็จจากที่นั่นก็ทรงพบเยโฮนาดับ บุตรเรคาบมาหาพระองค์ พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสกับเขาว่า “จิตใจของท่านซื่อตรงต่อจิตใจของฉัน อย่างจิตใจของฉันตรงต่อของท่านหรือ” และเยโฮนาดับทูลว่า “ตรง พระเจ้าข้า” เยฮูตรัสว่า “ถ้าตรงก็ยื่นมือมาให้เรา” เขาจึงยื่นมือของเขา และเยฮูก็จับเขาขึ้นมาบนรถรบ
16. พระองค์ตรัสว่า “มากับเราเถิด และดูความร้อนรนของเราเพื่อพระเจ้า” พระองค์จึงให้เขานั่งรถรบของพระองค์ไป
17. และเมื่อพระองค์มาถึงสะมาเรีย พระองค์ทรงประหารคนทั้งปวงที่ เป็นราชวงศ์ของอาหับที่เหลืออยู่ในสะมาเรียเสีย จนพระองค์ทรงทำลายอาหับเสียสิ้น ตามพระวจนะของพระเจ้าซึ่งพระองค์ตรัสกับเอลียาห์
18. แล้วเยฮูทรงประชุมบรรดาประชาชน ทั้งสิ้น และตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “อาหับปรนนิบัติพระบาอัลแต่เล็กน้อย แต่เยฮูจะปรนนิบัติพระองค์มาก
19. ฉะนั้นจงเรียกผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลมาให้หมด ทั้งบรรดาผู้นมัสการและปุโรหิตของท่านอย่าให้ผู้ใด ขาดไปเลย เพราะเราจะมีสัตวบูชาอย่างใหญ่โตที่จะถวายแก่พระบาอัล ผู้ใดขาดจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้” แต่เยฮูทรงกระทำเป็น อุบายเพื่อจะทำลายผู้เคารพนมัสการพระบาอัล