17. ซาโลมอนจึงสร้างเกเซอร์ขึ้นใหม่ และสร้างเมืองเบธโฮโรนล่าง
18. ทั้งเมืองบาอาลัทและเมืองทามาร์ในถิ่นทุรกันดาร ในแผ่นดินยูดาห์
19. ทั้งบรรดาหัวเมืองคลังหลวงที่ซาโลมอนมีอยู่ และหัวเมืองสำหรับรถรบของพระองค์ และหัวเมืองสำหรับพลม้าของพระองค์ และสิ่งใดๆ ซึ่งซาโลมอนมีพระประสงค์จะสร้างในกรุงเยรูซาเล็ม ในเลบานอน และทั่วแผ่นดินอยู่ในอาณาจักรของพระองค์
20. ประชาชนทั้งปวงซึ่งเหลืออยู่จากคนอาโมไรต์ คนฮิตไทต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ผู้ซึ่งไม่ใช่คนอิสราเอล
21. เชื้อสายของเขาที่เหลืออยู่ในแผ่นดิน ซึ่งประชาชนอิสราเอลไม่สามารถจะทำลายให้สิ้นได้ บุคคลเหล่านี้ ซาโลมอนทรงเกณฑ์ให้เป็นทาสอยู่จนทุกวันนี้
22. แต่ประชาชนอิสราเอลนั้น ซาโลมอนหาได้ทรงกระทำให้เป็นทาสไม่ เขาทั้งหลายเป็นทหาร เป็นข้าราชการ เป็นผู้บังคับบัญชาของพระองค์ เป็นนายทหารของพระองค์ เป็นผู้บังคับการรถรบของพระองค์ และเป็นพลม้าของพระองค์
23. เหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เหนือพระราชกิจของซาโลมอน จำนวนห้าร้อยห้าสิบคน เป็นผู้ดูแลประชาชนที่ทำงาน
24. แต่ธิดาของฟาโรห์ได้ขึ้นไปจากนครดาวิด ถึงพระตำหนักของเธอเองซึ่งซาโลมอนได้สร้างให้เธอ แล้วพระองค์จึงสร้างป้อมมิลโล
25. ปีละสามครั้ง ซาโลมอนได้ทรงถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องศานติบูชาบนแท่นบูชา ซึ่งพระองค์ทรงสร้างถวายพระเจ้า ทรงเผาเครื่องหอมต่อพระพักตร์พระเจ้า ดังนั้นพระองค์จึงสร้างพระนิเวศจนสำเร็จ
26. พระราชาซาโลมอนทรงสร้างกองเรือกำปั่นที่ เอซีโอนเกเบอร์ ซึ่งอยู่ใกล้เอโลทบนฝั่งทะเลแดงในแผ่นดินเอโดม
27. และฮีรามได้ส่งข้าราชการและพลเรือผู้ซึ่ง คุ้นเคยกับทะเล ไปกับกองกำปั่นพร้อมกับข้าราชการของซาโลมอน
28. เขาทั้งหลายไปถึงเมืองโอฟีร์ และนำทองคำมาจากที่นั่น จำนวนสี่ร้อยยี่สิบตะลันต์ และนำมาถวายพระราชาซาโลมอน