37. ครั้นพระราชาสิ้นพระชนม์แล้ว เขาก็ นำมายังกรุงสะมาเรีย และฝังพระศพพระราชาไว้ในสะมาเรีย
38. เขาล้างรถรบที่สระแห่งสะมาเรีย และสุนัขก็เลียโลหิตของพระองค์ (ที่ที่หญิงแพศยาลงอาบน้ำ) ตามพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ได้ตรัส
39. ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของอาหับ และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และพระราชวังงาช้างซึ่งพระองค์ทรงสร้างไว้ และหัวเมืองทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้าง มิได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดาร แห่งพระราชาประเทศอิสราเอลหรือ
40. อาหับทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และอาหัสยาห์ราชโอรสของพระองค์ก็ขึ้นครองแทน
41. เยโฮชาฟัทราชโอรสของอาสาเริ่มขึ้นครองเหนือยูดาห์ในปีที่สี่แห่งรัชกาลอาหับพระราชาแห่งอิสราเอล
42. เยโฮชาฟัทมีพระชนม์สามสิบห้าพรรษาเมื่อ ทรงเริ่มขึ้นครอง และพระองค์ทรงครองในเยรูซาเล็มยี่สิบห้าปี พระชนนีของพระองค์มีพระนามว่า อาซูบาห์ธิดาของชิลหิ
43. พระองค์ทรงดำเนินตามมรรคาของอาสาราชบิดา ทุกประการ มิได้หันเหออกนอกไป ทรงกระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรพระเจ้า แต่ปูชนียสถานสูงนั้นยังมิได้รื้อลง ประชาชนยังถวายเครื่องสัตวบูชาและ เผาเครื่องหอมอยู่บนปูชนียสถานสูงนั้น
44. เยโฮชาฟัททรงกระทำไมตรี กับพระราชาอิสราเอลด้วย
45. ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยโฮชาฟัท และยุทธพลังที่พระองค์ทรงสำแดง และสงครามที่พระองค์ทรงกระทำ มิได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดาร แห่งพระราชาประเทศยูดาห์หรือ
46. และเทวทาสที่ยังเหลืออยู่คือ ผู้ที่ยังเหลือในสมัยของอาสาราชบิดานั้น พระองค์ก็ทรงกำจัดเสียจากแผ่นดิน
47. ไม่มีพระราชาในประเทศเอโดม แต่มีผู้ว่าราชการปกครองแทน
48. เยโฮชาฟัททรงต่อกำปั่นทารชิช เพื่อจะไปขนทองคำจากโอฟีร์ แต่กำปั่นนั้นไปไม่ถึง เพราะไปแตกเสียที่เอซีโอนเกเบอร์
49. แล้วอาหัสยาห์ราชโอรสของ อาหับตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า “ขอให้ข้าราชการของข้าพเจ้า ไปในเรือกำปั่นกับข้าราชการของท่าน” แต่เยโฮชาฟัทไม่พอพระทัย
50. และเยโฮชาฟัททรงล่วงหลับไปอยู่กับ บรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังพระศพไว้กับบรรพบุรุษที่ในนคร ดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ และเยโฮรัมราชโอรสก็ขึ้นครองแทนพระองค์
51. อาหัสยาห์ราชโอรสของอาหับทรงเริ่มครองเหนือ อิสราเอลในสะมาเรีย ในปีที่เจ็ดแห่งรัชกาลเยโฮชาฟัท พระราชาแห่งยูดาห์ และพระองค์ทรงครอบครองเหนืออิสราเอลสองปี