26. เขาทั้งหลายก็เอาวัวผู้ที่เขานำมาให้ และเขาทั้งหลายก็จัดเตรียมและร้องออกพระนามพระบาอัล ตั้งแต่เวลาเช้าจนเที่ยงกล่าวว่า “ข้าแต่พระบาอัล ขอตอบพวกข้าพเจ้าเถิด” แต่ก็ไม่มีเสียงและไม่มีใครตอบ และเขาก็โขยกเขยกอยู่รอบแท่นซึ่งเขาได้สร้างขึ้นนั้น
27. ครั้นถึงเวลาเที่ยงเอลียาห์ก็เย้ยเขาทั้งหลายว่า “ร้องให้ดังๆซี เพราะท่านเป็นพระเจ้าองค์หนึ่ง ท่านกำลังติดธุระอยู่ หรือท่านกำลังไปทุ่ง หรือท่านไปเที่ยว หรือชะรอยท่านกำลังหลับอยู่ และจะต้องปลุก”
28. เขาทั้งหลายก็ร้องเสียงดัง และเชือดเฉือนตัวเองตามธรรมเนียมของเขาด้วยดาบและหลาว จนโลหิตไหลพุ่งออกมาตามตัว
29. และเมื่อผ่านเที่ยงวันไปแล้ว เขาก็พร่ำต่อไปจนถึงเวลาถวายบูชา แต่ไม่มีเสียง ไม่มีใครตอบ ไม่มีใครฟัง
30. แล้วเอลียาห์พูดกับประชาชนทั้งปวงว่า “จงเข้ามาใกล้ข้าพเจ้า” และประชาชนทั้งปวงก็เข้ามาใกล้ท่าน และท่านก็ซ่อมแท่นบูชาของพระเจ้าที่ถูกทำลายลงนั้น
31. เอลียาห์นำศิลาสิบสองก้อนมาตามจำนวนเผ่า ของบุตรชายของยาโคบ ผู้ซึ่งพระวจนะของพระเจ้ามาถึงว่า “อิสราเอลจะเป็นชื่อของเจ้า”
32. และท่านได้สร้างแท่นบูชาด้วยศิลาในพระนามของพระเจ้า และท่านได้ขุดร่องรอบแท่นใหญ่พอจุเมล็ดพืชได้สองถัง
33. และท่านก็วางฟืนไว้เป็นระเบียบและฟันวัวผู้นั้นเป็นท่อนๆ และวางไว้บนกองฟืน และท่านกล่าวว่า “จงเติมน้ำให้เต็มสี่ไหและเทลงบนเครื่องเผาบูชา และบนกองฟืน”
34. และท่านกล่าวว่า “จงกระทำครั้งที่สอง” และเขาก็กระทำครั้งที่สอง และท่านกล่าวว่า “จงกระทำครั้งที่สาม” และเขาก็กระทำครั้งที่สาม
35. และน้ำไหลรอบแท่นบูชา และท่านใส่น้ำเต็มร่อง
36. และอยู่มาเมื่อถึงเวลาถวายบูชา เอลียาห์ผู้เผยพระวจนะก็เข้ามาใกล้ทูลว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอับราฮัม อิสอัคและอิสราเอล ขอให้ทราบเสียทั่วกันในวันนี้ว่า พระองค์คือพระเจ้าในอิสราเอล และข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ และข้าพระองค์ได้กระทำบรรดาสิ่งเหล่านี้ ตามพระดำรัสของพระองค์