12. ศิมรีทรงทำลายราชวงศ์ของบาอาชาดังนี้แหละ ตามพระวจนะของพระเจ้าซึ่งพระองค์ตรัสโดยเยฮู ผู้เผยพระวจนะกล่าวโทษบาอาชา
13. เหตุด้วยบาปทั้งสิ้นของบาอาชาและบาปของเอลาห์ ราชโอรสของพระองค์ซึ่งได้กระทำบาป และซึ่งพระองค์ทั้งสองได้กระทำให้ชนอิสราเอลทำบาปด้วย กระทำให้พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่ง อิสราเอลทรงกริ้วด้วยเรื่องรูปเคารพของพระองค์นั้น
14. ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเอลาห์ และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ มิได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดาร แห่งพระราชาประเทศอิสราเอลหรือ
15. ในปีที่ยี่สิบเจ็ดแห่งรัชกาลอาสากษัตริย์ประเทศยูดาห์ ศิมรีทรงครอบครองเจ็ดวัน ณ เมืองทีรซาห์ ฝ่ายพวกพลได้ตั้งค่ายรบเมืองกิบเบโธน ซึ่งเป็นของคนฟีลิสเตีย
16. และพวกพลซึ่งตั้งค่ายอยู่นั้นทราบ เขากล่าวกันว่า “ศิมรีได้กบฏและท่านได้ปลงพระชนม์พระราชาเสียแล้ว” เพราะฉะนั้นอิสราเอลทั้งปวงก็สถาปนาอมรี ผู้บัญชาการกองทัพให้เป็นพระราชาเหนือ อิสราเอลในวันนั้นที่ในค่าย
17. อมรีจึงเสด็จขึ้นไปจากกิบเบโธน และอิสราเอลทั้งปวงก็ขึ้นไปด้วย เขาทั้งหลายเข้าล้อมเมืองทีรซาห์
18. และอยู่มาเมื่อศิมรีทรงเห็นว่าเมืองนั้นแตกแล้ว ก็เสด็จเข้าไปในป้อมของพระราชวัง และทรงเผาพระราชวังเสีย และทรงสิ้นพระชนม์ในกองไฟด้วย
19. เหตุด้วยบาปซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้ คือทรงกระทำชั่วในสายพระเนตรพระเจ้า ดำเนินอยู่ในมรรคาของเยโรโบอัม และด้วยเหตุบาปซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย
20. ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของศิมรีและการกบฏ ซึ่งพระองค์ทรงกระทำมิได้บันทึกไว้ในหนังสือ พงศาวดารแห่งพระราชาอิสราเอลหรือ
21. แล้วชนชาติอิสราเอลก็แบ่งออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งของประชาชนติดตามทิบนีบุตรกีนัท เชิญท่านให้เป็นกษัตริย์ และอีกครึ่งหนึ่งติดตามอมรี
22. แต่ประชาชนผู้ติดตามอมรีได้รบชนะ ประชาชนผู้ติดตามทิบนีบุตรกีนัท ทิบนีจึงสิ้นชีวิตและอมรีก็ขึ้นเป็นกษัตริย์
23. ในปีที่สามสิบเอ็ดแห่งรัชกาลอาสา พระราชาแห่งยูดาห์ อมรีได้เริ่มต้นครอบครองอยู่เหนืออิสราเอล และทรงครอบครองอยู่สิบสองปี พระองค์ทรงครอบครองในเมืองทีรซาห์หกปี