2. เพราะฉะนั้นบรรดาข้าราชการของพระองค์จึงกราบทูลว่า “ขอเสาะหาหญิงพรหมจารีมาถวายพระราชาเจ้านายของ ข้าพระบาท และขอให้เธออยู่งานเฉพาะฝ่าพระบาท และดูแลฝ่าพระบาท ให้เธอนอนในพระทรวงของฝ่าพระบาท เพื่อพระราชาเจ้านายของข้าพระบาทจะได้ทรงอบอุ่น”
3. เขาจึงได้แสวงหานางสาวที่สวยงามตลอดดินแดนอิสราเอล ได้พบนางสาวอาบีชากหญิงชาวชูเนม จึงได้นำเธอมาเฝ้าพระราชา
4. หญิงสาวคนนั้นงามยิ่งนัก เธอได้ดูแลพระราชาและอยู่ปรนนิบัติพระองค์ แต่พระราชาหาทรงร่วมกับเธอไม่
5. ฝ่ายอาโดนียาห์ โอรสของพระนางฮักกีทได้ยกตัวเองขึ้นกล่าวว่า “เราเองจะเป็นพระราชา” และท่านได้เตรียมรถรบและพลม้า กับพลวิ่งนำหน้าห้าสิบคนไว้เพื่อตนเอง
6. พระราชบิดาของท่านก็ไม่เคยขัดใจท่านด้วยถามว่า “ทำไมเจ้ากระทำเช่นนี้เช่นนั้น” ท่านเป็นชายงามด้วย ท่านเกิดมาถัดอับซาโลม
7. ท่านได้ปรึกษากับโยอาบบุตรนางเศรุยาห์ และกับอาบียาธาร์ปุโรหิต เขาทั้งสองก็ติดตามและช่วยเหลืออาโดนียาห์
8. แต่ศาโดกปุโรหิต และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา และนาธันผู้เผยพระวจนะกับชิเมอี และเรอี และพวกทแกล้วทหารของดาวิดมิได้อยู่ฝ่ายอาโดนียาห์
9. อาโดนียาห์ได้ถวายแกะ วัว และสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องบูชา ณ โศเฮเลท ซึ่งอยู่ข้างๆเอนโรเกล และท่านได้เชิญพี่น้องทั้งสิ้นของท่าน คือราชโอรสของพระราชา และประชาชนทั้งสิ้นแห่งยูดาห์ ที่เป็นข้าราชการของพระราชา
10. แต่ท่านมิได้เชิญนาธันผู้เผยพระวจนะ หรือเบไนยาห์หรือพวกทแกล้วทหาร หรือซาโลมอนอนุชาของท่าน
11. แล้วนาธันก็ทูลพระนางบัทเชบาพระชนนีของซาโลมอน ว่า “ฝ่าพระบาทไม่ทรงทราบหรือว่า อาโดนียาห์โอรสของพระนางฮักกีทได้ทรงราชย์แล้ว และดาวิดเจ้านายของข้าพระบาทก็มิได้ทรงทราบเรื่อง
12. เพราะฉะนั้นขอข้าพระบาทถวายคำปรึกษา เพื่อฝ่าพระบาทจะได้ทรงช่วยชีวิตของฝ่าพระบาท และชีวิตของซาโลมอนโอรสของฝ่าพระบาทไว้
13. ขอเสด็จเข้าเฝ้าพระราชาดาวิดทันที และกราบทูลพระองค์ว่า ‘พระราชาเจ้านายของหม่อมฉัน ฝ่าพระบาทได้ทรงปฏิญาณกับสาวใช้ของฝ่า พระบาทไว้มิใช่หรือว่า “ซาโลมอนบุตรของเจ้าจะครองสมบัติต่อจากเรา และจะนั่งบนบัลลังก์ของเรา มิใช่หรือ” ไฉน อาโดนียาห์จึงทรงครองเล่าเพคะ’