7. ฝ่ายซามูเอลไม่เคยรู้จักพระเจ้า และยังไม่เคยทรงสำแดงพระดำรัสของพระเจ้าแก่เขา
8. และพระเจ้าทรงเรียกซามูเอลครั้งที่สาม ซามูเอลก็ลุกขึ้นไปหาเอลี กล่าวว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่ ด้วยท่านร้องเรียกข้าพเจ้า” แล้วเอลีจึงหยั่งรู้ได้ว่า พระเจ้าทรงเรียกเด็กนั้น
9. เพราะฉะนั้นเอลีจึงพูดกับซามูเอลว่า “จงไปนอนเสียเถิด ถ้าพระองค์ทรงเรียกเจ้า เจ้าจงทูลว่า ‘พระเจ้าเจ้าข้า ขอพระองค์ตรัสเถิด เพราะผู้รับใช้ของพระองค์คอยฟังอยู่’ ” ซามูเอลจึงกลับไปนอนในที่ของตน
10. และพระเจ้าเสด็จมาประทับยืนอยู่ ทรงเรียกอย่างครั้งก่อนๆว่า “ซามูเอล ซามูเอลเอ๋ย” และซามูเอลทูลตอบว่า “ขอตรัสเถิด เพราะผู้รับใช้ของพระองค์คอยฟังอยู่”
11. แล้วพระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า “ดูเถิด เราจะทำสิ่งหนึ่งในอิสราเอล หูของทุกคนผู้ที่ได้ยินจะแสบทั้งสองข้าง
12. ในวันนั้นเราจะกระทำให้สิ่งที่เราลั่นวาจาไว้เกี่ยวด้วย เรื่องพงศ์พันธุ์ของเอลีให้สำเร็จเสียต่อเอลี ตั้งแต่ต้นจนถึงที่สุด
13. ดังนั้นเราจึงบอกเขาว่า เราจะลงโทษพงศ์พันธุ์ของเขาเป็นนิตย์ เพราะความบาปชั่วซึ่งเขารู้แล้ว เพราะบุตรทั้งสองของเขาเหยียดหยามพระเจ้า และเขาก็มิได้ห้ามปราม
14. เพราะฉะนั้นเราจึงปฏิญาณต่อพงศ์พันธุ์ของเอลีว่า ความบาปชั่วของพงศ์พันธุ์เอลีนั้นจะลบล้างเสียด้วย เครื่องสัตวบูชา และของถวายไม่ได้เป็นนิตย์”
15. ซามูเอลนอนอยู่จนรุ่งเช้า เขาเปิดประตูพระนิเวศของพระเจ้า และซามูเอลก็กลัวไม่กล้าบอกนิมิตนั้นแก่เอลี